ตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีปล้นบ้านชาวต่างชาติเมื่อปี 2549


สุพรรณบุรี 24 มี.ค.-คดีคนร้ายปล้นบ้านชาวต่างชาติเมื่อกลางปี 2549 ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นนักการภารโรงโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.ชัยนาท และถูกศาลพิพากษาจำคุกไปแล้ว 11 ปี ขณะที่นักโทษ 2 คน ที่เรือนจำสุพรรณบุรี เขียนจดหมายถึงกระทรวงยุติธรรมถึง 2 ครั้ง เมื่อปี 56 และ 59 ระบุเป็นผู้ต้องหาตัวจริง วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคุยกับพยานผู้ชี้ตัว ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นเด็กอายุเพียง 7 ปี

นี่เป็นจดหมายจากนักโทษชาย 2 คน ที่เขียนส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อทวงความยุติธรรมให้นายกมล แพเขียว อดีตนักการภารโรง โรงเรียนที่ชัยนาท ผู้ต้องหาในคดีปล้นทรัพย์ที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อมีนาคมปี 49 โดยระบุข้อความว่า พวกเขาคือผู้ก่อเหตุตัวจริง และนายกมล เป็นแพะ


นายกมล แพเขียว ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี ในข้อหาข้อหาปล้นทรัพย์ โดยมีและใช้อาวุธปืนและพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และไม่ได้รับอนุญาต

ระหว่างเขาถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำสุพรรณบุรี ได้พบกับนักโทษทั้ง 2 คนนี้ คือ นายสาคร ขาวพันธุ์ และนายเอกราช เหลาอ่อน โดยนายกมล เล่าสาเหตุที่ต้องติดคุกจากเหตุการณ์ปล้นทรัพย์เป็นรถยนต์กระบะป้ายแดง 4 ประตู จากบ้านที่หมู่ 4  ต.ปลายนา อ.ศรีประจันทร์ จ.สุพรรณบุรี ไปด้วย ต่อมา นายสาคร และนายเอกราช รู้สึกผิดที่ทำให้นายกมล ต้องรับโทษ จึงเขียนจดหมายสารภาพความจริงมาแล้ว 2 ครั้ง ช่วงปี 56 และ 59 ขอให้มีการรื้อคดีนี้อีกครั้งหนึ่ง  


เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ที่ ต.ปลายนา อ.ศรีประจันทร์ จ.สุพรรณบุรี เมื่อ 11 ปีก่อน คนร้าย 4 คนบุกเข้ามาในบ้าน ก่อนที่จะใช้ปืนและมีดข่มขู่คนที่อยู่ในบ้าน ก่อนจะเอากุญแจรถกระบะ 4 ประตู ให้คนร้ายอีก 1 คน ที่จอดรถรออยู่ด้านนอก ก่อนที่จะขับรถหนีไปที่ถนนถนนเลียบคลองชะอม

พยานซึ่งในขณะเกิดเหตุมีอายุ 7 ขวบ เป็นลูกของเจ้าของบ้าน และเป็น 1 ใน 4 คนที่อยู่ในบ้าน ขณะคนร้ายกลุ่มนี้บุกเข้ามา เธอถูกมัดมือเช่นเดียวกับคนอื่น ก่อนที่คนร้ายจะนำกุญแจรถกระบะขับหลบหนีไป เธอเล่าว่า ระหว่างที่คนร้ายบุกเข้ามาตอนแรกไม่มีการปกปิดใบหน้า ทำให้เธอจำหน้าหนึ่งในคนร้ายได้ แต่ในวันที่ตำรวจให้ชี้ตัวผู้ต้องหา บุคคลที่ตำรวจนำมายืนให้ชี้ตัวกลับไม่คลับคล้ายคลับคลากับคนร้ายที่เธอเห็น เธอและพี่สาวจึงเกิดความลังเล

เพื่อนบ้านเปิดเผยว่า เหตุเกิดในเวลาค่ำและระยะห่างของบ้านค่อนข้างไกล ทำให้ไม่ทราบว่ามีการปล้น เห็นเพียงรถกระบะที่วิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็วผิดปกติ เพราะเจ้าของบ้านหลังนั้นจะไม่ขับรถเร็ว

ขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม กำลังตรวจสอบคดีนี้อีกครั้ง โดยตั้งคณะกรรมการรวบรวมเอกสาร พยาน และหลักฐานทั้งหมดตามที่ได้รับข้อมูล โดยผู้กำกับการ สภ.ศรีประจัน ระบุว่า ได้ส่งมอบสำนวนคดีนี้ให้แก่คณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพราะในขณะนี้มีแค่คำให้การของจากนักโทษ 2 ราย ที่เขียนจดหมายเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้นำโลกอายุน้อย

นายกฯ ได้รับเลือก 1 ในผู้นำโลกอายุต่ำกว่า 40 ปี สร้างการเปลี่ยนแปลง

นายกฯ แพทองธาร ได้รับคัดเลือก 1 ในผู้นำโลกอายุต่ำกว่า 40 ปี ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงโดย “YGL 2025” สะท้อนวิสัยทัศน์และภาวะผู้นำของไทย ที่ได้รับการยอมรับในเวทีสากล มั่นใจสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้ประเทศไทยได้

ผาเหวนรกถล่ม

ผาน้ำตกเหวนรกถล่ม นักท่องเที่ยวเจ็บ​ 2 สั่งปิดชั่วคราว

หน้าผาบริเวณสะพานลงน้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถล่มลงมา หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง 5 วัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ พร้อมประกาศปิดการท่องเที่ยวน้ำตกเหวนรกชั่วคราว

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ผาเหวนรกถล่ม

ผาน้ำตกเหวนรกถล่ม นักท่องเที่ยวเจ็บ​ 2 สั่งปิดชั่วคราว

หน้าผาบริเวณสะพานลงน้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถล่มลงมา หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง 5 วัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ พร้อมประกาศปิดการท่องเที่ยวน้ำตกเหวนรกชั่วคราว

กลับสงกรานต์สายเอเชีย

ทยอยกลับสงกรานต์ สายเอเชียรถเยอะ แต่เคลื่อนตัวได้ดี

วันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ช่วงเช้าวันนี้ถนนสายเอเชียขาเข้า ผ่านอยุธยา-ชัยนาท รถเยอะเคลื่อนตัวได้ดี

เจ้าหน้าที่ลำคลอง​งู

“เฉลิม​ชัย” ย้ำดูแลครอบครัวเจ้าหน้าที่ ​อช.​ลำคลอง​งู เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่​

อธิบดี​กรมอุทยานฯ​ ยืนยันให้ความช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่อุทยาน​แห่งชาติ​ลำคลอง​งูเต็มที่ หลังเสียชีวิตขณะงมหามือถือให้นักท่องเที่ยว ที่ทำตกน้ำในถ้ำเสาหิน