ดีเอสไอตรวจสอบสาวสปาภูเก็ตร้องเป็นแพะคดีชิงทรัพย์


ภูเก็ต 23 มี.ค.-หลังสำนักข่าวไทยเปิดประเด็นพนักงานสาวสปาใน จ.ภูเก็ต ร้องผ่านสื่อว่าตกเป็นแพะในคดีมอมยาชิงทรัพย์ใน จ.ตรัง เมื่อปี 2554 และถูกศาลชั้นต้นตรังพิพากษาจำคุก 10 ปี วันนี้เรื่องนี้เริ่มมีความชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อทีมดีเอไอลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงและพบหลักฐานใหม่อีกหลายชิ้น


ภาพจากโทรศัพท์มือถือภาพนี้ คือภาพของ น.ส.ปวิตรา กองกำพล หรือ น.ส.พลอย ที่เธอบันทึกไว้เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2554 แสดงให้เห็นว่าในขณะนั้นเธอมีรูปร่างท้วม ขณะที่อีกฟากเป็นภาพหญิงสาวรูปร่างผอมบาง จากกล้องวงจรปิดระบุวันที่ 8 พ.ย.2554 ที่ตำรวจ สภ.หาดสำราญ จ.ตรัง ใช้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับ น.ส.ปวิตรา กองกำพล ในข้อหาชิงทรัพย์

ด้วยระยะเวลาที่ห่างกันเพียง 3 วัน กับรูปร่างที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด บวกกับแบบบันทึกประวัติทางการแพทย์ของ น.ส.ปวิตรา ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลป่าตอง ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ไม่เคยปรากฏว่าเธอมีน้ำหนักตัวต่ำกว่า 70 กิโลกรัมมาก่อน เป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นใหม่ที่ยิ่งทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอมั่นใจว่า น.ส.ปวิตรา คือเแพะในคดีนี้


ผลจากการลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต และ จ.ตรัง ตลอดทั้ง 2 วันที่ผ่านมานี้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยังเปิดเผยว่า พบความผิดปกติของคดีนี้ในอีกหลายจุด ทั้งในส่วนขั้นตอนการได้มาของชื่อตามทะเบียนราษฎร์ จากข้อมูลที่ทราบเพียงว่าผู้ต้องหาชื่อเล่นว่าพลอย จนนำไปสู่การอนุมัติออกหมายจับ รวมถึงพยานวัตถุอื่นๆ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์ที่มีการใช้ติดต่อกัน รวมถึงลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุที่ตำรวจระบุว่า เก็บไว้ แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบยืนยันตัวผู้กระทำผิด โดยรองปลัดกระทรวงยุติธรรมยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า มีความเป็นไปได้ที่คดีนี้อาจมีการทำกันเป็นขบวนการ หลังพบว่ามีคดีทีเกิดขึ้นในลักษระเดียวกันในนี้อีกในพื้นที่ จ.ตรัง

ด้าน น.ส.ปวิตรา กองกำพล หรือ น.ส.พลอย ซึ่งเตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อเข้าสู่เครื่องจับเท็จ ตามขั้นตอนของกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์วันนี้ว่า รู้สึกมีความหวัง หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือ และพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทุกด้าน 

ทั้งนี้ การขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยตรวจสอบเรื่องลายนิ้วมือบนแก้วสุราที่ผู้เสียหายระบุว่า น.ส.พลอย เป็นผู้ชงให้ดื่มก่อนจะหมดสติ และชิงทรัพย์เป็นพระและสร้อยคอทองคำไปมูลค่ากว่า 700,000 บาท น่าจะช่วยคลี่คลายปมคดีนี้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

สั่งปิดกิจการโรงงานลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์

“เอกนัฏ” ลุยจับโรงงานลักลอบขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกยึดอายัดจากปราจีนบุรี มามหาชัย จ.สมุทรสาคร พบเป็นเครือข่ายเดียวกับ 2 โรงงานที่ถูกสั่งปิดก่อนหน้านี้ ขยายผลตามจับจนเจอขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอตใหม่อีกกว่า 1,200 ตัน สั่งปิดกิจการทันที

ข่าวแนะนำ

อธิการบดี ม.สยาม ยันไม่เกี่ยวข้องคอร์สอบรมอาสาตำรวจ

อธิการบดี ม.สยาม แถลงโต้ หลังตกเป็นข่าวมีคอร์สอบรมอาสาตำรวจคนจีนในมหาวิทยาลัย ลั่นมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เตรียมดำเนินคดีกับทุกบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พบนายกฯ

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เข้าพบนายกรัฐมนตรี ยืนยันความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และการป้องกันภัยจาก online scams

“เม้งการยาง” ยันไม่ทราบขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น

“เม้งการยาง” พบตำรวจไซเบอร์ เผยไม่ทราบว่าขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น หลังถ่ายรายการยังให้เงินน้องไป 2,000 บาท ด้าน “เมลาย รัชดา” เผยจะเลิกคอนเทนต์ขยะ และเลิกจัดทริปน้ำไม่อาบ

“ภูมิธรรม” ขอไม่ลงรายละเอียด ช่วย 4 ลูกเรือประมงไทย

“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม เผยปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย ต้องรอจบกระบวนการ ย้ำรัฐบาล-กต.ประสานอยู่ตลอด แต่ขอไม่ลงรายละเอียด เพราะอาจกระทบการเจรจา