ก.ท่องเที่ยว 22 มี.ค.-สถานการณ์ท่องเที่ยวไทย 2 เดือนแรกสดใส เร่งยกระดับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน ส่วนช่วงสงกรานต์นี้ คาดรายได้สะพัดกว่า 16,000 ล้านบาท จากการจัดงานในกทม.และ 14 พื้นที่ทั่วประเทศ
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทย 2 เดือนแรกยังเป็นไปตามเป้า สร้างรายได้แล้วกว่า 327 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.96 โดยมีการประชุมหารือเพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนกฎหมายให้เอื้อต่อการท่องเที่ยว เช่น การแก้กฎระเบียบการนำรถยนต์เข้ามาในประเทศไทยให้มีขอบเขตมากขึ้น, การทำวีซ่าที่เข้า-ออก ผ่านชายแดนด้วยรถยนต์ จากเดิมหากเดินทางเข้าประเทศไทยเกิน 2 ครั้งต่อปีจะต้องมาขอวีซ่าอาจมีการแก้ไขให้มีความสะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้คณะอนุกรรมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกอาทิสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน, ห้องน้ำทางลาดสำหรับคนพิการ,Wi-Fi เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ส่วนการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนในโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศ ได้แต่งตั้งคณะทำงานประชารัฐขับเคลื่อนประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวทั้ง 8 เขต เพื่อให้มีกลไกในการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ยกระดับมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และจัดทำโครงการ “เจ้าบ้านที่ดี”เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายทางการท่องเที่ยวนำร่อง 1,500 คน อบรมภาษา บุคลิกภาพ การดูแลนักท่องเที่ยวและทรัพยากรธรรมชาติ ตั้งเป้า 111 ชุมชนทั่วประเทศ สามารถทำการตลาดและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ตามมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยขั้นพื้นฐานโดยมีภาคเอกชนมาร่วมสนับสนุนให้แต่ละชุมชนสามารถแข่งขันและรับนักท่องเที่ยวได้
ส่วนทิศทางการพัฒนาเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนโครงการขนาดใหญ่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ได้แก่ โครงการภูเก็ต Smart Cityโครงการศึกษาสำรวจ ออกแบบและก่อสร้างทางจอดเรือสาธารณะภูเก็ตเพื่อส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลกรวมถึงเห็นชอบการทดลองขยายเวลาการให้บริการในเขตการท่องเที่ยวซอยบางลาน จังหวัดภูเก็ต ให้หน่วยงานต่างๆรับไปพิจารณาด้วย
ส่วนแนวโน้มการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์นี้ คาดว่าจะสร้างรายได้ 16,950 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ10 โดยมีปัจจัยจากการจองตั๋วล่วงหน้า เที่ยวบินเช่าเหมาลำ รวมถึงการจัดงานทั้งในกทม.และ 14 พื้นที่ทั่วประเทศไทย จึงมั่นใจว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ตะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา .-สำนักข่าวไทย