มีชัย ชี้วิกฤตการเมืองไทย 4 ด้าน

กรุงเทพฯ 22 มี.ค.-  ประธาน กรธ. ระบุ วิกฤตการเมืองไทย 4 ด้าน  ที่อันตรายที่สุดสำหรับประเทศ คือการเข้าสู่อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง จนทำลายความน่าเชื่อถือ แนะ ปลูกฝังวินัยตั้งแต่เด็ก 


สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานเทศบาลเมืองมหาสารคามและมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดโครงการสัมมนาเชิงวิชาการ สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย เรื่อง ยุทธศาสตร์และทิศทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่น ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น   

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวปาฐกถาเรื่องบทบาทของรัฐธรรมนูญในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ทางการเมืองไทย โดยย้อนให้เห็นถึงวิกฤติการเมืองไทยใน 4 ด้าน ซึ่งปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ วิกฤตการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ใช้ความดีงามเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหรือท้องถิ่น แต่เข้ามาเพื่อให้ได้อำนาจและใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและพรรคพวก 


ประธาน กรธ. กล่าวว่า เมื่อเข้ามาในวงการการเมืองแล้ว ต้นทุนก็สูง ก็ต้องเอาจากของหลวง จนในที่สุดไม่ได้ทำงานเพื่อพัฒนา แต่ทำเพื่อเอาสัดส่วนจากสิ่งที่ทำ เรียกกันว่า ทุจริตเชิงนโยบาย โดยใช้อำนาจไปในทางที่ไม่สุจริต และรักษาอำนาจด้วยวิธีการเอาทุนคืนและสะสมทุนรอนต่อไปในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นวิกฤตที่อันตรายที่สุดสำหรับประเทศและประชาชน รวมถึงทำลายความน่าเชื่อถือของระบอบประชาธิปไตย

นายมีชัย กล่าวว่า หากไม่ขจัดเรื่องนี้ บ้านเมืองจะไม่มีวันเจริญทัดเทียมกับประเทศอื่นได้ เพราะต้นทุนแพง อาทิ การจะสร้างถนน 100 ล้านบาท แต่ใช้งบประมาณถึง 200 ล้านบาท เป็นต้น เคยได้ยินว่า เมื่อถึงเวลาน้ำท่วม ก็จะมีคนดีใจ เพราะจะได้ไม่เห็นหลักฐานที่เคยทำทุจริตไว้ 

ประธาน กรธ. กล่าวว่า อีกหนึ่งวิกฤตคือ ประเทศไทยเริ่มมีกฎหมายมากขึ้น ประชาชนอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายโดยตลอด ตั้งแต่ตื่นจนนอนหลับ แต่เมื่อถามว่า การบังคับใช้กฎหมายนั้นตรงไปตรงมาหรือไม่ คำตอบก็คือไม่ แต่เป็นไปตามดุลยพินิจของผู้มีอำนาจ ดังนั้น การกระทำผิดกฎหมายจึงเกิดขึ้นทั่วบ้านเมือง และผู้ที่ถูกจับกุมจะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เพราะเห็นว่าสิ่งที่ตนเองกระทำก็มีผู้อื่นกระทำเช่นเดียวกัน และเมื่อไม่มีขื่อไม่มีแป แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ก็ไม่เกิดความสุขสงบและความเป็นธรรม 


นายมีชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีวิกฤตการณ์ที่ข้าราชการทำงานแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวและไม่มีกำหนดเวลา ทำให้ทำงานล่าช้า ก้าวไม่ทันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เมื่อผู้ที่อยู่ในอำนาจสูงไม่สุจริต ผู้ที่อยู่ข้างล่างก็ไม่สุจริตตาม แต่ลืมคิดไปว่า หากทุกคนหยุดไขว่คว้า เงินที่จะนำมาเพิ่มเงินเดือนก็จะมีมหาศาล และวิกฤตสุดท้าย คือ วิกฤติการทุจริต ที่เกิดจากการใช้ดุลยพินิจหลายขั้นตอน ทำให้เกิดการทุจริตง่าย

ประธาน กรธ. กล่าวว่า วิกฤตการณ์ทั้งหมดที่กล่าวมา เกิดขึ้นจากคนไม่มีวินัย ความไม่มีวินัยทำให้การดำรงชีวิตยากลำบาก เกิดหนี้สิน ทำงานโดยไม่มีสำนึกในความรับผิดชอบ เมื่อคนไม่มีวินัย เวลาหาเสียงเลือกตั้งก็จะใช้ทุกวิถีทาง ไม่รู้สึกผิดกับการทุจริต  หัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่คือ สร้างคนให้มีวินัย 2 ระดับ รัฐธรรมนูญจึงมุ่งพัฒนาการศึกษาตั้งแต่เด็ก และประคบประหงมตั้งแต่อยู่ในท้อง ซึ่งรัฐ ท้องถิ่นและประชาชนต้องร่วมมือกัน

นายมีชัย กล่าวว่า ในระยะต้น ก่อนเด็กจะเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา ต้องถูกสอนให้มีวินัย พร้อมกับการพัฒนาสมองตามหลักสาธารณสุข เพื่อให้คนมีคุณภาพ การจะดำเนินการเช่นนี้ กลไกกระบวนการศึกษาที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถทำได้สำเร็จ เพราะถูกจับแบ่งเป็นชิ้น ต่างคนต่างทำ งบประมาณมหาศาลไม่ได้อยู่กับเด็ก รัฐธรรมนูญนี้จึงทั้งบังคับ ชักชวนและขู่เข็ญ ว่า การจะปฏิรูปการศึกษาและการบังคับใช้กฎหมายจะต้องมีกลไกเป็นพิเศษ โดยมีคณะกรรมการที่จะไปปฏิรูปการศึกษาโดยเฉพาะแต่คณะกรรมการนี้จะต้องมาจากกระทรวงศึกษาธิการน้อยที่สุด และการศึกษาต้องเป็นไปตามความถนัดของเด็ก ไม่ใช่ความต้องการของสังคมและพ่อแม่ ดังนั้น กลไกในการปฏิรูปการศึกษาจึงสร้างไว้เฉพาะทาง 

ประธาน กรธ. กล่าวว่า ส่วนกลไกการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย มุ่งเน้นที่ตำรวจ เพราะมีหน้าที่โดยตรง แต่ทุกวันนี้ ตำรวจยังต้องพึ่งผู้มีอิทธิพลในการวิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่ง ดังนั้น การปฏิรูปตำรวจ จึงต้องให้คนนอกมามีส่วนร่วม เพื่อให้ตำรวจมีความมั่นคง และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ แต่หากตำรวจไม่ยอมรับการปฏิรูป จนทำให้การปฏิรูปไม่สำเร็จ ตำรวจก็จะเป็นผู้ถูกกระทำเสียเอง และถูกฉีกไปอยู่ที่ท้องถิ่นหรือจังหวัด 

นายมีชัย กล่าวว่า ขณะที่วิกฤติทางการเมือง ต้องยึดกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  คือ ไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง  ซึ่งหลายเรื่องถูกบัญญัติห้ามไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่พบว่า ผู้บริหารแผ่นดิน และหน่วยงานราชการยังเมินเฉย แต่ต่อไป ทั้งสำนักงบประมาณ กระทรวง ทบวง กรม ที่ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ ยกเว้นทำบันทึกแสดงความเห็นคัดค้านเอาไว้ จะไม่ถูกลงโทษ เพื่อให้โอกาสข้าราชการที่ถูกฝ่ายการเมืองบีบ จึงเขียนเวลาที่จะติดตามเรื่องไว้ 20 ปี รอให้ฝ่ายการเมืองชุดนั้นพ้นจากตำแหน่ง ไม่ให้เป็นอันตรายกับข้าราชการคนดังกล่าว 

ประธาน กรธ. กล่าวว่า การกำหนดรัฐธรรมนูญเช่นนี้ ก็เพื่อแก้วิกฤต และจุดที่สำคัญอยู่ที่ตอนท้ายของรัฐธรรมนูญ คือหมวดว่าด้วยการปฏิรูปในด้านต่างๆ และบังคับด้วยว่า ต้องออกกฎหมายวิธีการปฏิรูป วิธีการจัดทำยุทธศาสตร์ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน โดยอาศัยประสบการณ์จากรัฐธรรมนูญฉบับเก่า ๆ ที่ไม่สามารถออกกฎหมายได้จริง รัฐธรรมนูญใหม่จึงกำหนดเวลาไว้ และกำหนดบทลงโทษกรณีทำไม่แล้วเสร็จตามกำหนดด้วย เชื่อว่า หากดำเนินการครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ยังแก้วิกฤตไม่ทั้งหมด แต่ต้องให้คนรุ่นนี้ไปก่อน แล้วสร้างวินัยเด็กให้เด็กรุ่นใหม่

นายมีชัย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้มุ่งแต่เฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น แต่นึกถึงผลกระทบที่ประชาชนจะได้รับจากการดำเนินการของรัฐ และ กรธ.รู้ว่า สิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดคือกฎหมายที่มีจำนวนมาก เพราะสะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมของคนต้องถูกควบคุมจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี และทุกครั้งที่ออกกฎหมาย คือการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ดังนั้น รัฐธรรมนูญนี้จึงพยายามสร้างกลไกการปฏิรูปเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ดีขึ้น ไม่ให้เกิดวิกฤตแบบที่เคยเกิดขึ้นอย่างที่ผ่านมา แต่จะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทุกคนจะมองเห็นผลสัมฤทธิ์นั้นหรือไม่  หากทุกคนร่วมกัน เชื่อว่า กลไกที่เขียนในรัฐธรรมนูญจะแก้วิกฤตได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย