มีชัย ชี้วิกฤตการเมืองไทย 4 ด้าน

กรุงเทพฯ 22 มี.ค.-  ประธาน กรธ. ระบุ วิกฤตการเมืองไทย 4 ด้าน  ที่อันตรายที่สุดสำหรับประเทศ คือการเข้าสู่อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง จนทำลายความน่าเชื่อถือ แนะ ปลูกฝังวินัยตั้งแต่เด็ก 


สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานเทศบาลเมืองมหาสารคามและมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดโครงการสัมมนาเชิงวิชาการ สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย เรื่อง ยุทธศาสตร์และทิศทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่น ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น   

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวปาฐกถาเรื่องบทบาทของรัฐธรรมนูญในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ทางการเมืองไทย โดยย้อนให้เห็นถึงวิกฤติการเมืองไทยใน 4 ด้าน ซึ่งปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ วิกฤตการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ใช้ความดีงามเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหรือท้องถิ่น แต่เข้ามาเพื่อให้ได้อำนาจและใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและพรรคพวก 


ประธาน กรธ. กล่าวว่า เมื่อเข้ามาในวงการการเมืองแล้ว ต้นทุนก็สูง ก็ต้องเอาจากของหลวง จนในที่สุดไม่ได้ทำงานเพื่อพัฒนา แต่ทำเพื่อเอาสัดส่วนจากสิ่งที่ทำ เรียกกันว่า ทุจริตเชิงนโยบาย โดยใช้อำนาจไปในทางที่ไม่สุจริต และรักษาอำนาจด้วยวิธีการเอาทุนคืนและสะสมทุนรอนต่อไปในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นวิกฤตที่อันตรายที่สุดสำหรับประเทศและประชาชน รวมถึงทำลายความน่าเชื่อถือของระบอบประชาธิปไตย

นายมีชัย กล่าวว่า หากไม่ขจัดเรื่องนี้ บ้านเมืองจะไม่มีวันเจริญทัดเทียมกับประเทศอื่นได้ เพราะต้นทุนแพง อาทิ การจะสร้างถนน 100 ล้านบาท แต่ใช้งบประมาณถึง 200 ล้านบาท เป็นต้น เคยได้ยินว่า เมื่อถึงเวลาน้ำท่วม ก็จะมีคนดีใจ เพราะจะได้ไม่เห็นหลักฐานที่เคยทำทุจริตไว้ 

ประธาน กรธ. กล่าวว่า อีกหนึ่งวิกฤตคือ ประเทศไทยเริ่มมีกฎหมายมากขึ้น ประชาชนอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายโดยตลอด ตั้งแต่ตื่นจนนอนหลับ แต่เมื่อถามว่า การบังคับใช้กฎหมายนั้นตรงไปตรงมาหรือไม่ คำตอบก็คือไม่ แต่เป็นไปตามดุลยพินิจของผู้มีอำนาจ ดังนั้น การกระทำผิดกฎหมายจึงเกิดขึ้นทั่วบ้านเมือง และผู้ที่ถูกจับกุมจะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เพราะเห็นว่าสิ่งที่ตนเองกระทำก็มีผู้อื่นกระทำเช่นเดียวกัน และเมื่อไม่มีขื่อไม่มีแป แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ก็ไม่เกิดความสุขสงบและความเป็นธรรม 


นายมีชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีวิกฤตการณ์ที่ข้าราชการทำงานแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวและไม่มีกำหนดเวลา ทำให้ทำงานล่าช้า ก้าวไม่ทันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เมื่อผู้ที่อยู่ในอำนาจสูงไม่สุจริต ผู้ที่อยู่ข้างล่างก็ไม่สุจริตตาม แต่ลืมคิดไปว่า หากทุกคนหยุดไขว่คว้า เงินที่จะนำมาเพิ่มเงินเดือนก็จะมีมหาศาล และวิกฤตสุดท้าย คือ วิกฤติการทุจริต ที่เกิดจากการใช้ดุลยพินิจหลายขั้นตอน ทำให้เกิดการทุจริตง่าย

ประธาน กรธ. กล่าวว่า วิกฤตการณ์ทั้งหมดที่กล่าวมา เกิดขึ้นจากคนไม่มีวินัย ความไม่มีวินัยทำให้การดำรงชีวิตยากลำบาก เกิดหนี้สิน ทำงานโดยไม่มีสำนึกในความรับผิดชอบ เมื่อคนไม่มีวินัย เวลาหาเสียงเลือกตั้งก็จะใช้ทุกวิถีทาง ไม่รู้สึกผิดกับการทุจริต  หัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่คือ สร้างคนให้มีวินัย 2 ระดับ รัฐธรรมนูญจึงมุ่งพัฒนาการศึกษาตั้งแต่เด็ก และประคบประหงมตั้งแต่อยู่ในท้อง ซึ่งรัฐ ท้องถิ่นและประชาชนต้องร่วมมือกัน

นายมีชัย กล่าวว่า ในระยะต้น ก่อนเด็กจะเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา ต้องถูกสอนให้มีวินัย พร้อมกับการพัฒนาสมองตามหลักสาธารณสุข เพื่อให้คนมีคุณภาพ การจะดำเนินการเช่นนี้ กลไกกระบวนการศึกษาที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถทำได้สำเร็จ เพราะถูกจับแบ่งเป็นชิ้น ต่างคนต่างทำ งบประมาณมหาศาลไม่ได้อยู่กับเด็ก รัฐธรรมนูญนี้จึงทั้งบังคับ ชักชวนและขู่เข็ญ ว่า การจะปฏิรูปการศึกษาและการบังคับใช้กฎหมายจะต้องมีกลไกเป็นพิเศษ โดยมีคณะกรรมการที่จะไปปฏิรูปการศึกษาโดยเฉพาะแต่คณะกรรมการนี้จะต้องมาจากกระทรวงศึกษาธิการน้อยที่สุด และการศึกษาต้องเป็นไปตามความถนัดของเด็ก ไม่ใช่ความต้องการของสังคมและพ่อแม่ ดังนั้น กลไกในการปฏิรูปการศึกษาจึงสร้างไว้เฉพาะทาง 

ประธาน กรธ. กล่าวว่า ส่วนกลไกการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย มุ่งเน้นที่ตำรวจ เพราะมีหน้าที่โดยตรง แต่ทุกวันนี้ ตำรวจยังต้องพึ่งผู้มีอิทธิพลในการวิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่ง ดังนั้น การปฏิรูปตำรวจ จึงต้องให้คนนอกมามีส่วนร่วม เพื่อให้ตำรวจมีความมั่นคง และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ แต่หากตำรวจไม่ยอมรับการปฏิรูป จนทำให้การปฏิรูปไม่สำเร็จ ตำรวจก็จะเป็นผู้ถูกกระทำเสียเอง และถูกฉีกไปอยู่ที่ท้องถิ่นหรือจังหวัด 

นายมีชัย กล่าวว่า ขณะที่วิกฤติทางการเมือง ต้องยึดกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  คือ ไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง  ซึ่งหลายเรื่องถูกบัญญัติห้ามไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่พบว่า ผู้บริหารแผ่นดิน และหน่วยงานราชการยังเมินเฉย แต่ต่อไป ทั้งสำนักงบประมาณ กระทรวง ทบวง กรม ที่ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ ยกเว้นทำบันทึกแสดงความเห็นคัดค้านเอาไว้ จะไม่ถูกลงโทษ เพื่อให้โอกาสข้าราชการที่ถูกฝ่ายการเมืองบีบ จึงเขียนเวลาที่จะติดตามเรื่องไว้ 20 ปี รอให้ฝ่ายการเมืองชุดนั้นพ้นจากตำแหน่ง ไม่ให้เป็นอันตรายกับข้าราชการคนดังกล่าว 

ประธาน กรธ. กล่าวว่า การกำหนดรัฐธรรมนูญเช่นนี้ ก็เพื่อแก้วิกฤต และจุดที่สำคัญอยู่ที่ตอนท้ายของรัฐธรรมนูญ คือหมวดว่าด้วยการปฏิรูปในด้านต่างๆ และบังคับด้วยว่า ต้องออกกฎหมายวิธีการปฏิรูป วิธีการจัดทำยุทธศาสตร์ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน โดยอาศัยประสบการณ์จากรัฐธรรมนูญฉบับเก่า ๆ ที่ไม่สามารถออกกฎหมายได้จริง รัฐธรรมนูญใหม่จึงกำหนดเวลาไว้ และกำหนดบทลงโทษกรณีทำไม่แล้วเสร็จตามกำหนดด้วย เชื่อว่า หากดำเนินการครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ยังแก้วิกฤตไม่ทั้งหมด แต่ต้องให้คนรุ่นนี้ไปก่อน แล้วสร้างวินัยเด็กให้เด็กรุ่นใหม่

นายมีชัย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้มุ่งแต่เฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น แต่นึกถึงผลกระทบที่ประชาชนจะได้รับจากการดำเนินการของรัฐ และ กรธ.รู้ว่า สิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดคือกฎหมายที่มีจำนวนมาก เพราะสะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมของคนต้องถูกควบคุมจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี และทุกครั้งที่ออกกฎหมาย คือการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ดังนั้น รัฐธรรมนูญนี้จึงพยายามสร้างกลไกการปฏิรูปเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ดีขึ้น ไม่ให้เกิดวิกฤตแบบที่เคยเกิดขึ้นอย่างที่ผ่านมา แต่จะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทุกคนจะมองเห็นผลสัมฤทธิ์นั้นหรือไม่  หากทุกคนร่วมกัน เชื่อว่า กลไกที่เขียนในรัฐธรรมนูญจะแก้วิกฤตได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย