กรุงเทพฯ 21 มี.ค.-วันนี้ศาลแพ่งนัดไต่สวนคดีกลุ่มผู้พิการยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกรุงเทพมหานคร กรณีสถานีรถไฟฟ้า BTS สร้างลิฟต์และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการล่าช้า
นี่เป็นการพยายามเดินทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS ในรอบหลายปีของสว่าง ศรีสม ซึ่งยังมีความลำบากเช่นเดิม แม้สถานีราชดำริจะมีการสร้างลิฟต์ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการแล้ว แต่ทางเท้าที่เชื่อมกับทางลาดผู้พิการมีพื้นไม่เสมอกัน โดยสถานีรถไฟฟ้าเกือบครึ่งยังไม่ได้สร้างลิฟต์ให้ผู้พิการ
ปัจจุบันรถไฟฟ้า BTS มี 23 สถานี ปี 38 ปีแรกที่เปิดให้บริการ ไม่มีการสร้างลิฟต์และสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ พอปี 42 สร้างขึ้นในสถานีหมอชิต สยาม อโศก อ่อนนุช และช่องนนทรี ต่อมาในต้นปีนี้สร้างเพิ่มตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ที่สถานีราชดำริ พร้อมพงษ์ ทองหล่อ รวมมี 8 สถานี จากทั้งหมด 23 สถานี แต่เครือข่ายผู้พิการเห็นว่ายังไม่สมบูรณ์และยังใช้งานได้ไม่สะดวก ที่สำคัญ ยังสร้างไม่ครบเพราะเหลืออีก 15 สถานี
รถไฟฟ้าสถานีราชดำริ เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟฟ้าที่เพิ่งมีการสร้างลิฟต์ผู้พิการเสร็จเมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ผู้พิการระบุว่า ก็ยังพบปัญหาเรื่องการใช้งานอยู่ เพราะว่าที่สถานีนี้มีการสร้างลิฟต์จากถนนไปชั้นจำหน่ายตั๋วเพียงแค่ฝั่งเดียวเท่านั้น
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ครบ เช่น ทางลาด ราวจับ หรือลิฟต์ที่ติดไม่ครบ บางสถานีมีลิฟต์แต่ใช้งานไม่ได้ เป็นเหตุผลที่ภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ ยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจาก กทม. แบบกลุ่ม ในกรณีที่ กทม.ไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อ 20 มกราคม 2558 ภายใน 1 ปี โดยเรียกค่าเสียหายจาก กทม.ราว 200 ราย รายละกว่า 1.4 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นวันละ 4,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% จนกว่า กทม.จะจัดสิ่งอำนวยความสะดวกได้ครบ
วันนี้ ศาลแพ่งได้นัดไต่สวนกรณี กทม.ไม่จัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการ และทางเครือข่ายยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย ซึ่ง กทม.แถลงต่อศาลว่า เป็นอำนาจของศาลปกครอง ศาลจึงต้องพิจารณาว่า การฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายทำได้หรือไม่ โดยนัดฟังผลกลางเดือนพฤษภาคม ขณะที่กลุ่มผู้พิการบอกว่า หากการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายแบบกลุ่มทำไม่ได้ ก็จะแยกฟ้องเป็นรายบุคคล เพราะอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง รัฐต้องจัดสวัสดิการให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างเท่าเทียมกัน.-สำนักข่าวไทย