สธ. 23 ธ.ค.- สธ.รณรงค์ ลดอุบัติเหตุปีใหม่หลังจากสถิติปี 59 เสียชีวิตสูงถึง380 ราย พร้อมระดมทีมแพทย์กว่า 1 แสนทีมรับมือ
นพ.ธวัช สุนทราจารย์ ที่ปรึกษารมว.สธ. พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว กลับบ้านปลอดภัย ใส่ใจเพื่อนร่วมทาง ปีใหม่ 2560 ว่า เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนมีการเดินทางจำนวนมากตลอด 24 ชั่วโมง และมีจำนวนอุบัติเหตุมากที่สุด โดยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 พบว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึง 380 ราย มากกว่าทุกปี คิดเป็นร้อยละ 11 และยิ่งมีความคาดหวังลดอุบัติเหตุมากเท่าไหร่ กลับยิ่งพบจำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีการรณรงค์ป้องกัน หรือร่วมกันหามาตรการช่วยลดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังพบว่า อุบัติเหตุปีใหม่ ยังมาจากการขับเร็ว ง่วงแล้วขับ และยังพบปัญหาเมาแล้วขับ และยังพบ การเสียชีวิตในที่เกิดเหตุมากถึงร้อยละ 90
นพ.ธวัช กล่าวว่า สำหรับการรองรับอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ ได้มีการตั้งเป้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บบนท้องถนนให้ได้ภายใน 8-10 นาที เพื่อส่งยังโรงพยาบาล พร้อมแนะนำการเฝ้าระวังจุดเกิดอุบัติเหตุ ในถนนสายรอง เชื่อมถนนสายหลัก ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีการใช้ความเร็วสูง ให้มีการตั้งด่านชุมชน เพื่อเฝ้าระวัง พร้อมเข้มงวดเรื่องมาตรการเมาแล้วขับ ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุข มีการตรวจตรา ร้านค้าห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเวลา และย้ำว่าไม่ควรมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังขับรถอย่างเด็ดขาด
นพ.โสภณ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้มีการระดมทีมแพทย์ กว่า 1แสนทีม ศัลยแพทย์ พยาบาล คอยดูแล และประจำในสถานพยาบาลเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว โดยหากมีการเจ็บป่วยสามารถโทรผ่านหมายเลข 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ได้มีการนำยาอมรสเปรี้ยว มะแว้ง รวมถึงยาหอมอินทจักร์ ที่มีรสร้อน ทำให้ร่างกายตื่นตัว มาแจกตามปั้มน้ำมันบริการ เพื่อให้ตลอดระยะเส้นทางขับขี่มีความตื่นตัว
นพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ในการรณรงค์กลับบ้านปลอดภัย ใส่ใจเพื่อนร่วมทาง ช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้มีการออกแคมเปญรณรงค์ นำประสบการณ์ของครอบครัวผู้สูญเสียคนที่รักจากอุบัติเหตุมาบอกเล่าผ่านในโลกโซเซียส สร้างความตระหนักในการขับขี่มากขึ้น เป็นการส่งสารจากคนที่สูญเสีย หรือคนที่เสียชีวิตไปแล้ว บอกให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ใส่ใจ ทั้งการสวมหมวกกันน็อก หรือเข็มขัดนิรภัย หรือการไม่ขับขี่เร็วเกินกำหนด เพื่อลดอุบัติเหตุ.-สำนักข่าวไทย