บุรีรัมย์ 25 ธ.ค.-บริษัทขายเครื่องซักผ้ายอมคืนเงินและรับเครื่องกลับคืน หลังสองสามีภรรยาตาบอดร้องถูกเซลส์หลอกขายเครื่องซักผ้ามือสองให้ พร้อมขอโทษ ยอมรับเกิดจากความบกพร่องของเซลส์ บริษัทว่ากล่าวตักเตือน-ตัดเงินเดือนแล้ว
ความคืบหน้ากรณีนายสนั่น ฉิวรัมย์ อายุ 44 ปี และ น.ส.รจนา วังครอง อายุ 34 ปี สองสามีภรรยาพิการทางสายตาทั้งคู่ เช่าห้องแถวเปิดร้านนวดแผนไทยไทยเพื่อเลี้ยงชีพ ร้องขอความเป็นธรรมหลังถูกเซลส์ของบริษัทขายเครื่องไฟฟ้าแห่งหนึ่งหลอกขายมาติดต่อขายเครื่องซักผ้าให้ในราคา 18,000 บาท ทั้งเสนอเงื่อนไขให้ว่าจะออกเงินดาวน์จำนวน 1,490 บาทให้ก่อน จากนั้นก็ส่งผ่อนเป็นงวด งวดละ 803 บาท จึงตกลงซื้อ แต่พอผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ เครื่องซักผ้าเกิดมีปัญหารั่วน้ำไหลซึมออกตลอดเวลา พอเพื่อนบ้านมาช่วยดูเครื่องซักผ้าให้ก็บอกว่าน่าจะเป็นเครื่องมือสอง ไม่ใช่เครื่องใหม่ เพราะมีร่องรอยขูดขีดหลายจุด อีกทั้งในใบสัญญายังระบุราคาซื้อขาย 20,762 บาท ซึ่งไม่ตรงกับที่เซลส์มาเสนอให้ในราคา 18,000 บาท สองสามีภรรยาจึงเรียกร้องให้บริษัทคืนเงินดาวน์ค่างวด และรับเครื่องซักผ้าที่ถูกเซลส์หลอกขายกลับคืน
ล่าสุด บริษัทมอบหมายให้ผู้จัดการสาขาที่บุรีรัมย์นำเงินดาวน์ ค่างวด มาคืนให้สองสามีภรรยา และยอมยกเครื่องซักผ้าที่มีปัญหากลับคืน โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้กล่าวขอโทษสองสามีภรรยาด้วยว่า เกิดจากความบกพร่องของเซลส์ ซึ่งบริษัทก็ได้ว่ากล่าวตักเตือน พร้อมตัดเงินเดือนเพื่อเป็นการทำโทษพนักงานคนดังกล่าวด้วย
ด้านนายสนั่น ฉิวรัมย์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกพอใจและขอบคุณบริษัทที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตนกับภรรยาก็จะไม่ซื้อเครื่องซักผ้าเงินผ่อนผ่านเซลส์อีก เพราะเกรงจะเกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก แต่จะเก็บออมเงินจากการทำอาชีพนวดแผนไทย ไว้ซื้อเครื่องซักผ้าเป็นเงินสด และหากซื้อก็จะให้ญาติหรือเพื่อนบ้านช่วยดูให้ด้วย แต่ช่วงนี้ก็คงจะซักมือไปก่อน เพราะยังไม่มีเงินซื้อเครื่องซักผ้าใหม่ พร้อมอยากฝากถึงเซลส์ด้วยว่า ให้ซื่อสัตย์ในอาชีพ ไม่ควรจะไปหลอกลวงลูกค้าหรือผู้บริโภค โดยเฉพาะคนพิการที่ด้อยโอกาสกว่าคนปกติ เพราะนอกจากจะไม่ซื่อสัตย์ในวิชาชีพแล้ว ยังสร้างความเสียหายให้บริษัทด้วย.-สำนักข่าวไทย