หนองคาย 26 ธ.ค.- ตร.หนองคาย จับโจ๋รุมทำร้ายคู่อริผิดตัว ภายในร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน ปตท. ท่าบ่อ
พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย แถลงข่าวการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเข้าไปทำร้ายร่างกาย นายทศพร หงษาคำ อายุ 18 ปี ที่ ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย ภายในร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ท่าบ่อ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.40 น. ของวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ซึ่งจับภาพได้ชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ติดตาม จนทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ คือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นายณัฐวุฒิ สุขอินทร์ อายุ 20 ปี นายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นายโก้ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นายก๊อด (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และนายเก่ง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ทั้งหมดเป็นชาว อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ต่อมาบ่ายวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุม นายเอ นายก๊อด และนายเก่ง ได้ที่บ้านพัก ส่วนนายบี และนายโก้ กำลังติดต่อขอมอบตัว ส่วนนายณัฐวุฒิ อยู่ระหว่างการหลบหนี
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืน ต่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มของนายเอ รวม 6 คน นั่งเล่นอยู่ศาลาริมทางแยกน้ำโมง ริมถนนท่าบ่อ-ศรีเชียงใหม่ จากนั้น นายทศพร ผู้เสียหาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มากับเพื่อนอีกหนึ่งคน นายเอ เห็นนายทศพร นึกว่าเป็นคู่อริเก่า จึงชวนเพื่อนขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม นายทศพร เห็นท่าไม่ดี จึงหาที่หลบ โดยขี่มาถึงปั๊ม ปตท.ท่าบ่อ จึงแวะเข้าไปหลบไปในร้านสะดวกซื้อ โดยจอดรถแล้วดึงกุญแจรถไปด้วย จากนั้นนายเอ พร้อมพวกอีก 2 คน วิ่งเข้าไปรุมทำร้ายนายทศพร ซึ่งนายณัฐวุฒิ หนึ่งในกลุ่มนายเอได้ถือมีดดาบยาวประมาณ 30 ซม. เข้าไปด้วย ที่เหลือยืนคุมเชิงอยู่หน้าร้าน โดยนายทศพร ถูกรุมทำร้ายอยู่นานประมาณ 2 นาที นายเอ จึงพาพวกออกไป โดยที่เข็นเอารถจักรยานยนต์ของนายทศพรไปด้วย และนำไปจอดไว้ที่หลังตลาดเทศบาลเมืองท่าบ่อ เจ้าหน้าที่ติดตามนำกลับมาด้วย
นายเอ ยอมรับว่าจำคนผิด นึกว่านายทศพร เป็นคู่อริที่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน จึงไล่ตามมาทำร้าย แต่พอทำร้ายร่างกายเสร็จแล้ว จึงเห็นหน้าชัดเจนว่าเป็นคนละคนกัน แต่ก็ทำร้ายไปแล้ว จึงปล่อยเลยตามเลย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย และติดตามจับกุมนายณัฐวุฒิ ที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีด้วย.-สำนักข่าวไทย