สีสันเศรษฐกิจ : โรงแรมฟินแลนด์บริการปลุกนักท่องเที่ยวชมแสงเหนือ

ฟินแลนด์ 5 ม.ค. – การมีโอกาสได้ชมแสงเหนือสักครั้งในชีวิต เป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศในแถบขั้วโลกเหนืออย่างฟินแลนด์เฟื่องฟูอย่างมาก โรงแรมแห่งหนึ่งถึงกับว่าจ้าง “นักล่าแสงเหนือ” คอยเฝ้าสังเกตปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ เพื่อจะได้ปลุกแขกที่มาพักให้ตื่นขึ้นมาชมความงดงามได้ทันท่วงที

โรงแรม Arctic Snow Hotel มีห้องพักเพียง 30 ห้อง ในช่วงฤดูท่องเที่ยวเดือนธันวาคมถึงมกราคม แบบนี้ ราคาห้องพักอยู่ที่คืนละ 499 ยูโร (เกือบ 17,500 บาท) โรงแรม Arctic Snow Hotel ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ ห่างไกลจากแสงสีของตัวเมือง Rovaniemi ในประเทศฟินแลนด์ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 25 กิโลเมตร ที่นี่มีไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเน้นมาชมแสงเหนือ (Aurora) โดยเฉพาะ

ห้องพักทำเป็นบ้านน้ำแข็ง (Igloo) หลังคากระจก เพื่อให้นอนชื่นชมกับท้องฟ้ายามราตรีและหมู่ดวงดาราได้อย่างเพลิดเพลิน หากง่วงจนทนไม่ไหวเผลอหลับไป ทางโรงแรมก็มีบริการพิเศษที่เรียกว่า Aurora Alarm หรือบริการปลุกให้คุณตื่นขึ้นมาชมแสงเหนือได้อย่างไม่พลาดแน่นอน

ปรากฏการณ์แสงเหนือ (Aurora) เป็นเรื่องธรรมชาติที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของมนุษย์ และไม่สามารถสร้างหรือปลอมขึ้นมาได้ เพราะมันเกิดจากลมสุริยะที่นำประจุกระแสไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ มากระทบสนามแม่เหล็กขั้วโลกเหนือและใต้ ทำปฏิกิริยากับประจุอิเล็กตรอนของก๊าซออกซิเจน และไนโตรเจนสะท้อนออกมาเป็นแสงสีที่งดงามอลังการ

แสงเหนือที่ปรากฏขึ้นแต่ละครั้งจึงไม่เหมือนกันเลย และไม่มีใครบอกได้ว่าในแต่ละคืนจะเกิดขึ้นหรือไม่ ตรงไหน และเมื่อใด แต่โดยเฉลี่ยแล้วในดินแดนที่เรียกว่าแลปแลนด์แห่งนี้ จะมีแสงเหนือเกิดขึ้นราว 150 คืนต่อปี ตั้งแต่ช่วงประมาณกลางเดือนสิงหาคม เรื่อยไปจนถึงปลายเมษายนปีถัดไป ทำให้ในเมือง Rovaniemi ที่มีประชากรเพียง 62,000 คนแห่งนี้ มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาตามล่าแสงเหนือถึงราวปีละ 500,000 คน

แม้จะไม่สามารถรับประกันได้ว่านักท่องเที่ยวจะได้เห็นแสงเหนือหรือไม่ แต่เพื่อไม่ให้พลาดโอกาส หากเกิดปรากฏการณ์ขึ้นจริง ทางโรงแรม Arctic Snow Hotel จึงว่าจ้างพนักงานประจำคอยเฝ้าสังเกตการณ์ตลอดทั้งคืน และจะปลุกแขกที่มาพักทันทีที่แสงเหนือปรากฏขึ้น

สำหรับคนที่ใฝ่ฝันจะได้ชมแสงเหนือสักครั้งในชีวิต งานเฝ้าสังเกตการณ์แบบนี้อาจดูน่าอิจฉา แต่ลองนึกสภาพที่ต้องทนอดหลับอดนอน เฝ้ามองท้องฟ้าตลอดทั้งคืน กะละ 12 ชั่วโมง ท่ามกลางอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง คืนแล้วคืนเล่าที่เฝ้าภาวนาให้แสงเหนือปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ายามราตรี เพื่อจะปลุกนักท่องเที่ยวขึ้นมาชื่นชมความงดงาม

แม้จะต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่ง แต่การได้เห็นสีหน้าแววตาเปี่ยมความสุขของนักท่องเที่ยว บวกกับความอลังการของสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ก็คุ้มอยู่เหมือนกัน. – สำนักข่าวไทย