สน.โคกคราม 6 ม.ค.-ตำรวจสืบสวน สน.โคกคราม ร่วมกับสืบสวน บก.น.2 คุมตัวมือฆ่าปาดคอบัณฑิต มศว พบเคยต้องโทษคดีติดคุกรวม 8 ครั้ง สาเหตุเพราะต้องการเงินไปใช้จ่าย ทั้งนี้ ในคืนเดียวกันก่อเหตุชิงทรัพย์ถึง 4 คดี สำหรับผู้ต้องหาอีกราย ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ยังอยู่ในระหว่างติดตามจับกุมตัว
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลโคกครามได้ทำการจับกุมตัว นายกิตติกร วิกาหะ ชายอายุ 26 ปี หรือตั้ม ชาว ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธมีดแทงหนุ่มบัณฑิต มศว เสียชีวิตที่บริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. พร้อมของกลางโทรศัพท์ 3 เครื่องของผู้เสียหาย เงินสดจำนวนหนึ่ง และอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ
ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยก่อนหน้าก่อเหตุผู้ต้องหาเคยต้องโทษเข้าออกเรือนจำตั้งแต่อายุ 13 ปี รวม 8 ครั้ง เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและทำร้ายร่างกาย ล่าสุดต้องโทษคดีผลิตยาเสพติด เพิ่งออกจากเรือนจำเมื่อวันที่ 28 พ.ย.59 มีอาชีพเป็นพ่อค้าผลไม้ แต่รายได้ไม่ดีจึงคิดก่อเหตุ โดยร่วมมือกับเพื่อนที่รู้จักกันในเรือนจำ ตนเห็นผู้ตายกำลังกดโทรศัพท์อยู่เลยทำทีเข้าไปพูดคุย แล้วค่อยฉวยโอกาสชิงโทรศัพท์ ไม่ได้มีเจตนาจะฆ่า แต่ผู้ตายขัดขืนจึงลงมือแทง ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต ยืนยันว่าขณะก่อเหตุไม่ได้เสพยาเสพติดหรือเมาสุรา โดยหลังก่อเหตุได้แยกย้ายกับเพื่อนหลบหนี
ทั้งนี้ ก่อนหน้ามาเจอกับผู้ตายตนและเพื่อนได้ก่อเหตุกระชากกระเป๋าในบริเวณใกล้เคียงกันแต่ไม่สำเร็จ และหลังจากก่อเหตุแทงผู้ตายแล้วก็ตระเวนไปก่อเหตุต่อที่บริเวณซอยสุคนธสวัสดิ์ 9 และอีกคดีบริเวณริมถนนหน้าโรงพยาบาลสินแพทย์ รวมทั้งสิ้น 4 คดี
– (4 ม.ค.) 22.07 น. สุคนธสวัสดิ์ 27 ผู้เสียหาย ผู้หญิง ไม่ได้ทรัพย์สิน
– (4 ม.ค.) 22.15 น. สุคนธสวัสดิ์ 27 ผู้เสียหาย ผูชายตาย ได้ iPhone 6
– (5 ม.ค.) 01.30 น. สุคนธสวัสดิ์ 9 ผู้เสียหาย ผู้หญิง ได้ iPhone 5S
– (5 ม.ค.) 02.30 น. หน้ารพ.สินแพทย์ ผู้เสียหาย ผู้หญิง ได้ เงินสด 5,000 บาท
เจ้าหน้าที่เตรียมคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันนี้ เริ่มจากคดีในท้องที่ สน.โคกคราม ต่อด้วย สน.โชคชัย ส่วนเพื่อนยังอยู่ระหว่างหลบหนี ตำรวจทราบเบาะแสแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัว และหากมีการให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา ถือว่ามีความผิดอัตราโทษถึง 2 ปี
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในเวลากลางคืน ขอให้ระมัดระวังไม่ควรโชว์ทรัพย์สินหรือเล่นโทรศัพท์มือถือขณะเดินทาง เพราะเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มมิจฉาชีพก่อเหตุได้ ทั้งนี้ จะเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบจุดล่อแหลมเพื่อความปลอดภัยของประชาชน.-สำนักข่าวไทย