กรุงเทพฯ 11 มี.ค.-รองปลัดฯยุติธรรม เผยดีเอสไอ ยังไม่ยุติการทำงาน แม้ค้นวัดพระธรรมกายล้มเหลว ร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อจัดการต่อ
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) และโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่านายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.กระทรวงยุติธรรม ได้รับรายงานชั้นต้นจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เรื่องการตรวจค้นวัดพระธรรมกายวานนี้(10 มี.ค.)แล้ว โดยได้เข้าตรวจค้นจุดต้องสงสัยสำคัญคืออาคารดาวดึงเป็นกุฏิพระธัมมชโยเพื่อดูร่องรอยว่ากลับมาหรือ ไม่ ซึ่งไม่พบร่องรอย,อาคารปุโรหิตา,อาคารมหาพรหม,โรงปั้นพระ,อาคารมหาวิหารคุณยายจัน,อาคารพุทธศิลป์, อาคารร้อยปีคุณยายจัน, อาคารบุญรักษา, ไปตรวจดูถังน้ำมัน ร่องคูที่ขุดไว้ใกล้ ๆ
ส่วนที่ไม่พบตัวพระธัมมชโยครั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของดีเอสไอที่ต้องสืบสวนหา เบาะแสอยู่ที่ใดก็ต้องติดตามให้พบและควบคุมตัว โดยดีเอสไอยังมีชุดสืบสวนเฉพาะกิจ ติดตามกรณีนี้อย่างจริงจังต่อไป
อย่างไรก้ตามขอย้ำว่าแม้ดีเอสไอจะได้เข้าไปตรวจค้นพื้นที่ที่ต้องสงสัยแล้ว ก็ไม่ได้ หมายความว่าจะยุติการทำงาน ความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามคำสั่งที่ 5/2560 ยังคงอยู่และถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำต่อไป
ทั้งนี้ ดีเอสไอจะยังคงบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ใครที่ทำผิดกฎหมายไว้ ก็จะถูกดำเนินคดีไม่มีละเว้น แม้สังคมจะมีข้อสงสัยว่า ในอนาคต จะทำอะไรต่อไป จะหยุดแค่นี้หรือไม่ ขอเรียนว่า ไม่หยุด การบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่วัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบจะต้องดำเนินการได้ ในเบื้องต้น จะตั้งกองอำนวยการร่วมขึ้นภายในวัดพระธรรมกายประกอบด้วยตำรวจภูธรภาค 1/ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ/ ฝ่ายปกครองของจังหวัด/ คณะสงฆ์ผู้ปกครอง เพื่อดูแลความ ปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยภายในวัดพระธรรมกาย รวมทั้งการบริหารและการจัดกิจกรรม การชุมนุมที่ตลาดกลางต้องยุติลง การปลุกระดมให้พระสงฆ์และลูกศิษย์มารวมตัวกันต้องไม่มี การดำเนินคดีผู้กระทำความผิดต้องทำต่อ การก่อกวนยั่วยุต่อกำลังของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจก็ต้องยุติ รวมทั้งการเคลื่อนไหวของพวกฉวยโอกาส
นอกจากนี้เรื่องสำคัญที่ต้องทำให้ได้คือ การบังคับใช้กฎหมายกับพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย ต้องทำได้ในระยะยาว อีกเรื่องคือต้องระวังเหตุแทรกซ้อนที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง การบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รัฐบาลต้องดำเนินการต่อไปทั้งสองเรื่อง
ทั้งนี้ ยืนยันกระทรวงยุติธรรมไม่ยุติการทำงานเรื่องนี้เพียงเท่านี้ จะร่วมมือสนับสนุนทุกฝ่าย จัดการปัญหานี้ใหิสำเร็จต่อไป.-สำนักข่าวไทย