กรุงเทพฯ 14 มี.ค. – คปภ.เตรียมคลอดคำสั่งกำหนดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สอดคล้องกฎหมายจราจรทางบก กลางเดือนมีนาคมนี้
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า หลังจากที่ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนเรื่องให้ใช้อัตราเบี้ยประกันรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งกับรถยนต์ เป็นมาตรการแรกด้านประกันภัยเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนถนนแล้ว ขณะนี้สำนักงาน คปภ.อยู่ระหว่างเตรียมคลอดมาตรการที่ 2 โดยจะมีการออกคำสั่งนายทะเบียน เพื่อปรับแก้ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ กรณีการขับขี่โดยบุคคล ซึ่งขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกกำหนด
สำหรับการปรับแก้ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เรื่องลดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดให้ต่ำกว่าเดิมนั้น มีการศึกษาและวิเคราะห์กันมาตั้งแต่ก่อนที่นายสุทธิพล เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการ คปภ. โดยหลายฝ่ายเห็นว่าข้อยกเว้นในกรมธรรม์ที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งกำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์นั้น ไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงฉบับที่ 16 (พ.ศ.2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2537 ซึ่งบัญญัติว่าถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดตรวจวัดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ให้ถือว่าเมาสุรา ส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยรถยนต์ที่ดื่มสุรา ซึ่งตามกฎหมายถือว่าเมาสุรา เมื่อไปขับขี่รถยนต์แล้วเกิดอุบัติเหตุบริษัทประกันภัยก็ยังจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ หากไม่มีการแก้ไขจะส่งผลกระทบให้เสมือนเป็นการจูงใจให้คนที่ดื่มสุรานิ่งนอนใจว่าแม้เมาแล้วขับรถยนต์ชนเกิดความสูญเสียก็ยังมีประกันภัยจ่ายแทน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขกติกาในเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมจนมาถึงยุคของเลขาธิการ คปภ.คนปัจจุบัน
เลขาฯ คปภ. กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย รวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะต่าง ๆ ประกอบการชั่งน้ำหนักผลดี ผลเสียอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่าการปรับแก้ข้อยกเว้นในกรมธรรมประกันภัยรถยนต์เรื่องลดปริมาณแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกกำหนดจะเกิดผลดีต่อประชาชนมากกว่า โดยจะเป็นมาตรการที่ช่วยส่งเสริมการรณรงค์ “เมาไม่ขับ” และช่วยสนับสนุนความปลอดภัยทางถนนตามแผนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน อย่างยั่งยืน ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ จะมีการออกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2560 โดยจะมีการกำหนดช่วงเวลาพอสมควรก่อนที่จะให้มีคำสั่งใช้บังคับ เพื่อให้ทุก ภาคส่วนมีการปรับตัวรองรับกติกาใหม่นี้.-สำนักข่าวไทย