สถาบันพระปกเกล้า 18 มี.ค.-หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันยื่นเสียภาษีอย่างถูกต้องมาตลอด พร้อมยินดีให้ สตง.ตรวจสอบ เชื่อจะไม่กระทบต่อการเดินหน้าปรองดองของรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีรายชื่อเป็น 1 ใน 113 คนที่เข้าข่ายจะถูกตรวจสอบกรณีเลี่ยงภาษี โดยยืนยันว่า ไม่มีปัญหา หากมีการตรวจสอบและยินดีให้ความร่วมมือ เพราะที่ผ่านมาได้ยื่นเสียภาษีอย่างถูกต้องมาโดยตลอด ขณะเดียวกันมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง เนื่องจากทุกอาชีพจะต้องจ่ายภาษี
“และเท่าที่พูดคุยกับอดีต ส.ส.บางคนที่อยู่ในรายชื่อ ก็ได้ไปให้ข้อมูลกับ สตง.แล้ว โดยเข้าใจว่าการตรวจสอบดูจากทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นของนักการเมืองในช่วงก่อนและหลังยื่นบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สินกับ ป.ป.ช. และหากพบความผิด ก็เป็นความผิดเฉพาะบุคคล ขณะเดียวกันตั้งข้อสังเกตว่าการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นจากการยื่นบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช. อาจไม่สามารถที่จะคำนวณภาษีได้ เช่น ที่ดิน ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา แต่จะตีความเป็นรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นไม่ได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกรณีการขายหุ้นชินคอร์ปของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สมัยที่ตนเป็นรัฐบาลได้ดำเนินการในการเรียกเก็บภาษี หลังจากที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาตัดสิน และศาลภาษีอากรกลางมีคำวินิจฉัยให้เก็บภาษีเพราะเป็นการซื้อขายหุ้นนอกตลาด ซึ่งกรมสรรพากรเห็นว่าบุคคลที่ซื้อขายหุ้นเป็นนอมินี จึงได้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีไปยังเจ้าของที่แท้จริง แต่เรื่องกลับยุติลงในปี 2555 เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล และกรมสรรพากรได้อ้างว่าเป็นการซื้อขายหุ้นที่ถูกต้องในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเสียภาษี
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการเรียกเก็บภาษีกับนักการเมืองและนายทักษิณ อาจส่งผลกระทบต่อการสร้างความปรองดอง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถือเป็นคนละส่วน ต้องแยกออกจากกัน เรื่องภาษีเป็นความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งทุกคนต้องทำตามกฏหมาย ขณะที่การปรองดองต้องไม่ละเว้นคนที่ทำผิดกฏหมาย หรือไปกลั่นแกล้ง ทุกอย่างต้องทำตามกติกา จะอ้างความปรองดองแล้วละเว้นความผิดไม่ได้.-สำนักข่าวไทย