ผู้ว่าฯ สตง.ยันตรวจสอบภาษีนักการเมือง ไม่เลือกปฏิบัติ

214สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ 18 มี.ค.-ผู้ว่าฯ สตง. ยันใช้มาตรา 61 ตามประมวลรัษฎากร ให้กรมสรรพากรทำหน้าที่ในการประเมินภาษีเพื่อเรียกคืนภาษีหุ้นชินฯ รอดูผล 31 มี.ค.นี้ เชื่อต้องมีคนรับผิดทางอาญาแน่นอน ยันการตรวจสอบนักการเมืองกว่า 60 คนไม่ได้รับคำสั่ง แต่ทำตามหน้าที่ ย้ำทุกคนต้องเสียภาษีให้แผ่นดิน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 มี.ค.) คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน จัดอภิปรายสาธารณะแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ชาตินี้หรือชาติหน้า? ครั้งที่ 4 ในหัวข้อ “การตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น กรณีการโกงภาษีหุ้นชินคอร์ปและภาษีเชฟรอน” ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์

โดยนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า หลังจากมีการประชุมหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีหุ้นชินคอร์ป ซึ่งได้มีการพูดถึงการนำมาตรา 44 มาใช้ในกรณีนี้ โดยเห็นพ้องกันว่าจะต้องดำเนินการตามมาตรา 61 ตามประมวลรัษฎากร ให้กรมสรรพากรทำหน้าที่ในการประเมินภาษีเพื่อเรียกคืนภาษีหุ้นชินคอร์ป และจะไม่มีการเสนอให้ใช้คำสั่ง คสช.มาตรา 44 ในกรณีดังกล่าว


“มีบางฝ่ายเกรงว่าการใช้มาตรา 44 จะถูกกล่าวอ้างได้ว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะต้องเรียกเก็บจากนักการเมือง อาจถูกมองว่าเป็นการใช้เครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือใช้อำนาจในการบีบบังคับ จนกระทบต่อหลักนิติธรรม และยังไม่ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบของกรมสรรพากรทั้งที่มีกฎหมายอยู่แล้ว จะสร้างความรู้สึกไม่ดีให้เกิดขึ้นมากกว่าเดิมได้ จึงเห็นพ้องกันว่าไม่ควรนำมาตรา 44 มาใช้ในกรณีนี้” นายพิศิษฐ์ กล่าว

นายพิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าจนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาส่งสัญญาณและย้ำชัดเจนว่ากรมสรรพากรต้องทำหน้าที่ สตง.จึงไม่จำเป็นต้องส่งหนังสือเตือนอีก และหากกรมสรรพากรทำตามหน้าที่ไม่ได้ ก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนการประเมินวงเงินนั้น ไม่ได้เป็นหน้าที่ของ สตง.ว่าจะประเมินเท่าใด แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และหากไม่มีการดำเนินการ ก็อาจจะต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมยืนยันการตรวจสอบกรณีหุ้นชินฯ ในช่วงนี้ เพราะตนเพิ่งมีอำนาจเต็ม และเป็นการตรวจสอบแบบสุ่มตรวจ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงหรือมีคำสั่งจากฝ่ายบริหาร แต่เป็นการทำตามหน้าที่เพื่อให้มีการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นธรรม โดยไม่ได้สนใจว่าเป็นใคร หรือชื่ออะไร และกรณีหุ้นชินฯ จะต้องมีคนรับผิดทางอาญาแน่นอน

ผู้ว่าฯ สตง. ยังกล่าวถึงกรณีการเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองกว่า 60 รายชื่อที่มีการตรวจสอบพบการจ่ายภาษีไม่ถูกต้องในขณะนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ตรวจเฉพาะนักการเมือง แต่นักธุรกิจรายใหญ่ก็มีการตรวจสอบเช่นกัน ที่มีมูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งต้องมีคนรับผิดชอบ


“ขอแนะนำนักการเมืองที่กลัวว่าจะเข้าข่ายว่าหากรู้ตัวว่าชำระภาษีไม่ครบ ก็รีบไปชำระภาษี โดย สตง.จะพิจารณาจากความสัมพันธ์ของรายได้ และการชำระภาษีในช่วงก่อน ขณะและพ้นตำแหน่ง ทั้ง 2 รัฐบาลคือสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี และไม่ขอเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองกว่า 60 คน เพราะการเปิดเผยชื่อใดชื่อหนึ่งจะถือเป็นการเลือกปฎิบัติ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานตรวจสอบได้มีประสิทธิภาพ” นายพิศิษฐ์ กล่าว

212ขณะที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าหากใช้เฉพาะมาตรา 61 ประมวลรัษฎากรนั้น เป็นเรื่องที่ยากและคาดการณ์ผลได้ยาก จึงน่าจะใช้มาตรา 44 ขยายเวลาในการอุทธรณ์ ซึ่งเห็นว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจในการออกหมายเรียกตามมาตรา 3 วรรค 2 เพื่อขยายเวลาออกหมายเรียกกรณีผู้อยู่ต่างประเทศ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยใช้กฎหมายที่เป็นโทษกับผู้เสียภาษี ซึ่งยอมรับว่าอาจจะอึดอัด เพราะที่ผ่านมาเป็นการดำเนินการที่เป็นคุณต่อผู้เสียภาษี

นายธีระชัย ยังเสนอว่า ควรต้องแก้กฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินของบริษัทต่าง ๆ เช่น การจัดซื้อ การขายทั้งในและต่างประเทศ เหมือนในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และให้สื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบด้วย

ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีภาษีเชฟรอน ว่า การทุจริตของนักการเมืองและเอกชน จะทำไม่ได้ถ้าไม่มีข้าราชการให้ความร่วมมือ ซึ่งเป็นตัวสำคัญ เพราะรู้จักช่องโหว่ของกฎหมายดีที่สุด จึงให้คำแนะนำนักการเมืองและเอกชนให้ดำเนินการในช่องว่างของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ขณะที่กรณีหุ้นชินฯ ก็พบว่ามีข้าราชการให้คำแนะในการหลีกเลี่ยงเสียภาษี

“อยากให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินภาษีให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และไม่ต้องกลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่ากลั้นแกล้งใคร หากทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว เพราะเงินเดือนที่ได้คือภาษีของประชาชน ไม่ใช่ของนักการเมือง ส่วนการกระทำของเจ้าหน้าที่บางกลุ่มที่ให้คำปรึกษาหรือเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองและนักธุรกิจในการเลี่ยงภาษี ถือว่ามีความผิดอย่างร้ายแรงทั้งทางวินัย กฎหมายแพ่ง และอาญาด้วย” น.ส.รสนา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย