ตั้งเป้าพัฒนาอาหารไทยให้เติบโตอย่าวก้าวกระโดด

ศูนย์ฯ สิริกิติ์  20 มี.ค. – รัฐบาลมุ่งพัฒนาอาหารไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด  โดยต้องเน้นการนำดิจิทัลมาขับเคลื่อนอุตสาหกรรม พร้อมทั้งพัฒนาคนและซอฟท์แวร์มากขึ้น


นายพิเชฐ  ดุรงคเวโรจน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “อาหารไทย สู่ตลาดโลกอย่างก้าวกระโดดได้อย่างไร?” ในงาน  “Thailand Food Innovation  2017”  ว่า อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศไทย  สิ่งสำคัญผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาข้อมูลไปสู่ความรู้และนำดิจิทัลช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรม  ขณะที่ซอฟต์แวร์ไทยต้องพัฒนาให้มีคุณภาพมากขึ้น  ด้านบุคลากรต้องพัฒนาให้มีความรู้ความสามารถและสามารถใช้ดิจิทัลเชื่อมโยงกับทุกสิ่ง เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารให้เติบโตต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้  ภาครัฐตั้งเป้า 5 ปีข้างหน้างบวิจัยและพัฒนาด้านดิจิทัลประมาณร้อยละ 1 ของจีดีพี  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น  ขณะที่กระทรวงดีอีหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับสิทธิพิเศษด้านการลงทุนมากขึ้น  ขณะที่แนวโน้มในอนาคตจะมีการผลักดันให้ผู้ประกอบการออกไปทำธุรกิจนอกประเทศมากขึ้น  เนื่องจากต้นทุนค่าแรงต่ำและขยายฐานการค้าการลงทุนให้แก่ประเทศ


นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า  อุตสาหกรรมอาหารมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ  โดยไทยส่งออกอาหารอันดับ 1 ของอาเซียน  และอันดับ 12  ของโลก  ซึ่งปี 2559  ส่งออก 972,000  ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.8 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด  โดยปี 2560 ตั้งเป้ามูลค่าส่งออกจะอยู่ที่ 1.05 ล้านล้านบาท  ที่ผ่านมาการส่งออกอาหารส่วนใหญ่ของไทยจะส่งออกในรูปวัตถุดิบทำให้มูลค่าสินค้าไม่สูง  ถ้าใช้นวัตกรรมจะช่วยเพิ่มมูลค่าอาหารมากขึ้น  และการที่ไทยจะก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 จำเป็นต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมช่วย พร้อมตั้งเป้าให้ประชาชนมีรายได้ประชาชาติเป็น 13,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี จากปัจจุบัน  5,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปีภายใน 20 ปี  ซึ่งควรมุ่งเน้นการผลักดันกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล  การแพทย์ หุ้นยนต์และอุตสาหกรรมอาหาร .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

สร้างสถานการณ์ ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ปัตตานี

คนร้ายสร้างสถานการณ์ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือ หาตัวผู้ก่อเหตุ

กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น

“สมศักดิ์” กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจำกัด-ยับยั้ง การแพร่ระบาด พร้อมเตือนรับประทานหมูดิบ เสี่ยงโรคหูดับตลอดชีวิต