กยท.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้

กรุงเทพฯ  6  ม.ค. – กยท.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ เปิดศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของ “รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วมภาคใต้” เตรียมปล่อยขบวนรถฯ 9 ม.ค.นี้ ประเมินพื้นที่ปลูกยางเสียหาย 531,876 ไร่


นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความรุนแรงมากขึ้นจนเข้าสู่ขั้นวิกฤติ เนื่องจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง กยท. มีนโยบายช่วยเหลือชาวสวนยางที่ประสบอุทกภัยมาโดยตลอด โดยให้ความช่วยเหลือขั้นต้นด้วยการลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย และขณะนี้เริ่มโครงการ “กยท. รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วมภาคใต้” เป็นการเปิดศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ได้ที่ กยท. สำนักงานใหญ่ บางขุนนนท์ หรือ กยท.ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยผู้ที่ประสงค์ร่วมบริจาคเป็นเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ สามารถโอนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาบางขุนนนท์ ชื่อบัญชี นายพูลสุข อุเทนพันธ์ และ น.ส.สิตานัน เครือประดิษฐ์ เลขที่บัญชี 058-0-36479-8 ซึ่ง กยท.จะนำไปซื้อสิ่งของที่จำเป็นทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค มอบให้ประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึงมากที่สุด

“สิ่งของจำเป็นที่ขอรับบริจาคอย่างเร่งด่วน ได้แก่ ยารักษาโรค เสื้อผ้าใหม่ เช่น เสื้อ กางเกง ชุดชั้นใน เป็นต้น และของใช้ประจำวัน เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แป้ง มีดโกนหนวด ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมเด็ก เป็นต้น โดย จะปล่อยขบวนรถน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วมภาคใต้รอบต่อไปวันที่ 9 มกราคมนี้” นายธีธัช กล่าว


นายธีรวัฒน์ เดชทองคำ รองผู้ว่าฯ กยท.ด้านธุรกิจและปฏิบัติการ ผู้แทนคณะผู้บริหาร กยท.ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน  เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ กยท.ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพถึงมือผู้ประสบภัยที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมให้กำลังใจและสำรวจความเสียหายเบื้องต้นไปแล้ว 8 จังหวัด รวมพื้นที่ประมาณ 16 อำเภอ ได้แก่ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และตรัง เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือนที่พื้นที่ภาคใต้ประสบปัญหาฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้สวนยางพาราของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางได้รับผลกระทบและสวนยางพารามีน้ำท่วมขัง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนและมีพื้นที่ทำการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกยางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศและเป็นอาชีพหลักของเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้

ทั้งนี้  พบว่ามีเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้  60,338 ราย และมีพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดประมาณ 531,876 ไร่ แบ่งเป็นจังหวัดนครศรีธรรมราช 41,932 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ 416,133 ไร่ พัทลุง 17,331 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ  105,944 ไร่ ตรัง 700 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ 7,250 ไร่ สงขลา 353 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ 2,396 ไร่ และนราธิวาส  22 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ 153 ไร่ อย่างไรก็ตาม หลังจากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ของ กยท. เข้าไปประเมินความเสียหายของพื้นที่สวนยางที่ถูกน้ำท่วม พร้อมทั้งให้คำแนะนำดูแลสวนยางที่ถูกน้ำท่วมขัง เพื่อฟื้นฟูสวนยางอย่างถูกวิธี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท