กรุงเทพฯ 6 ม.ค.-จากเกิดเหตุฆ่าชิงทรัพย์หนุ่มวัย 26 ปี ซึ่งผู้ต้องหาเคยต้องโทษมาแล้วถึง 8 ครั้งตั้งแต่อายุ 13 ปี ทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้เพิ่มโทษไปถึงขั้นประหารชีวิต โดยรองนายกรัฐมนตรี ระบุสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากนิสัยของผู้ก่อเหตุ ไม่เกี่ยวกับการถูกปล่อยตัวออกมา ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้เฝ้าระวังและช่วยเหลือทุกด้าน พร้อมยืนยัน คสช. จะไม่ใช้มาตรา 44 สั่งประหารชีวิตใคร
ด้านนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ระบุจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหาเคยมีประวัติถูกจับกุมและส่งเข้าพัฒนาพฤตินิสัยมาแล้ว แต่จากพฤติกรรมกระทำผิดต่อเนื่อง บ่งชี้ว่าเป็นนิสัย สามารถให้อัยการเสนอศาลขอเพิ่มโทษได้ นอกจากนี้หากอยู่ระหว่างการรอการลงโทษ ต้องรวมโทษเก่าและโทษใหม่ แม้รับสารภาพก็ไม่ถือว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษ ทั้งนี้ตามหลักอาชญวิทยา ผู้ต้องหารายนี้ไม่สามารถปรับเปลี่ยนนิสัยได้ และต้องจำคุกเพื่อความปลอดภัยของคนในสังคม.-สำนักข่าวไทย