สำนักข่าวไทย10 ม.ค.-ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก.ยุติธรรม พร้อมช่วยเหลือ ‘แพะครู’ ให้เข้ากลับรับราชการที่โรงเรียนเดิม หลังกระทรวงศึกษาฯปฏิเสธ
นายนิธิต ภูริคุปต์ เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ภายใต้การดูแลของกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวถึงกรณีการให้ความช่วยเหลือนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร ซึ่งถูกศาลพิพากษาจำคุก 3ปี 2 เดือนในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2548 และถูกจำคุกตั้งแต่ปี 2556 ก่อนได้รับอภัยโทษออกมา เมื่อปี 2558 ว่า ความคืบหน้าล่าสุด เรื่องนี้ศูนย์จะแบ่งการให้ความช่วยเหลือออกเป็น 2 เรื่อง
คือ 1.การยื่นเรื่องขอกลับไปทำงานที่โรงเรียนเดิม จ.สกลนคร หลังจากที่ได้ออกจากเรือนจำ นางจอมทรัพย์ได้ทำเรื่องไปแล้วแต่ทางด้านกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งว่ายังไม่พิจารณาจนกว่าศาลจะมีคำสั่งชี้ขาดอีกครั้งว่า ไม่ได้ผิดจริง ในเรื่องนี้ทางศูนย์ฯ เห็นว่าหลังจากศาลได้มีคำสั่งให้รื้อฟื้นพิจารณาและนัดสืบพยานใหม่ ถือว่า นางจอมทรัพย์นั้นไม่มีความผิด และคดีอาญาที่โดนนั้นเป็นลักษณะคดีประมาท ไม่ใช่อาญาร้ายแรงที่จะต้องให้ออกจากราชการ เพียงแต่ช่วงเวลานั้น มีคำสั่งให้จำคุก ทางศูนย์เห็นว่าไม่เป็นธรรม จึงให้ความช่วยเหลือในเรื่องการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ทนาย และให้ทุนในการดำเนินการคัดค้านใหม่ เพื่อให้กลับเข้ารับราชการตามเดิม ซึ่งนางจอมทรัพย์เหลือเวลารับราชการอีกถึง 6 ปี
นายนิธิต กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่ 2 คือการรื้อฟื้นคดีและฟ้องร้องเรียกชดเชยค่าเสียหาย ประเด็นนี้ยังตอบอะไรได้ไม่มากต้องรอฟังคำตัดสินจากศาล จ.นครพนม ซึ่งศาลได้นัดสืบพยานใหม่ในวันที่ 16 ม.ค.นี้ เวลา 13.00 น. ถ้าศาลมีคำสั่งไม่ต้องสืบพยานไหม่ก็ถือว่าเป็นอันยุติเรื่อง แต่หากสั่งสืบพยานใหม่ ก็ต้องต่อสู้ตามกระบวนการต่อไป ซึ่งคงจะไม่ก้าวล่วงคำตัดสินของศาลต้องรอ จึงจะเห็นแนวทางต่อไป
นายนิธิต กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการทำหน้าที่ของตำรวจ เรื่องนี้คงไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของศูนย์ฯ ขึ้นอยู่กับนางจอมทรัพย์ ว่าจะดำเนินการในกระบวนการนี้หรือไม่ หากจะฟ้องร้องคงต้องขอให้เป็นเรื่องของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร แต่ส่วนตัวเชื่อว่าแต่ละหน่วยงานมีการดำเนินการหากผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานผิดพลาด .-สำนักข่าวไทย