รัฐสภา 10 ม.ค. – วิปสนช. มีมติ บรรจุร่างแก้ไข รธน.ชั่วคราว ประเด็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ –เงื่อนเวลาการนำร่าง รธน.ขึ้นทูลเกล้าฯ วันศุกร์ 13 ม.ค. ถก 3 วาระรวด
น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิป สนช. วันนี้ (10 ม.ค.) มีมติ บรรจุร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับปี 2557 ที่เป็นมติของที่ประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ส่งหนังสือด่วน ถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ในวาระการประชุมวันศุกร์ที่ 12 มกราคม นี้ โดยจะเป็นการพิจารณา 3 วาระรวด เพื่อความรวดเร็ว และให้เป็นไปตามโรดแมป
“จะเป็นการแก้ไขใน 2 ประเด็น คือ เรื่องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และเงื่อนเวลาการนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของตัวร่างแก้ไขได้ ขอให้รัฐบาลเป็นฝ่ายชี้แจงถึงตัวผู้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับประชามติ ว่าจะเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หรือ สนช. หรือรัฐบาลแก้ไขเอง” น.พงเจตน์ กล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ฉบับปี 2557 มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นวรรคสามของมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
“ในเมื่อพระมหากษัตริย์จะไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร หรือจะทรงบริหารพระราชภาระไม่ได้ด้วยเหตุใดก็ตาม จะทรงแต่งตั้งผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์หรือไม่ก็ได้และให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง”
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในวรรคสิบเอ็ดของมาตรา 39/1 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“เมื่อนายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตามวรรคเก้า ประกอบกับวรรคสิบแล้ว หากมีกรณีที่พระมหากษัตริย์พระราชทานข้อสังเกตว่า สมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อความใด ภายในเก้าสิบวัน ให้นายกรัฐมนตรีขอรับพระราชทานร่างรัฐธรรมนูญนั้นคืนมา เพื่อดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมเฉพาะประเด็นตามข้อสังเกตนั้น และแก้ไขเพิ่มเติมคำปรารภของร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกัน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายใหม่ ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับพระราชทานคืนมาตามที่ขอ เมื่อนายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และใช้บังคับได้ โดยให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ในกรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ หรือร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชทานคืนมา หรือเมื่อพ้นเก้าสิบวัน ที่นายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญ หรือร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย แล้วมิได้พระราชทานคืนมา ให้ร่างรัฐธรรมนูญหรือร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นเป็นอันตกไป” .- สำนักข่าวไทย