กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – กรมธนารักษ์ เตรียมเสนอครม.พิจารณาผ่อนหลักเกณฑ์การของบ้านธนารักษ์ประชารัฐ หลังพบรายย่อยจำนวนมากคุณสมบัติไม่ตรงตามข้อกำหนด
กระทรวงคลัง 14 พ.ย.-นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยจองสิทธิ์ซื้อ โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐในเฟสแรก โดยกำหนดให้ต้องเป็นบ้านหลังแรก และรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือน จึงเตรียมเสนอที่ประชุม ครม.ในเร็วๆนี้พิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไขการของสิทธิ์และเข้าอยู่อาศัย หลังจาก เปิดให้ประชาชนทั่้วไปจองซื้อบ้านธนารักษ์ประชารัฐทั้งการเช่าระยะสั้นของราชการในย่านสะพานควายจำนวน 2 โครงการ ปรากฎกว่ามีข้าราชการชั้นผู้น้อยสนใจจอง 2,300 ราย ขณะที่โครงการรองรับจำนวน 782 หน่วย เกินเป้าหมายร้อยละ 80 ขณะที่โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ อ.หัวหิน มีรายย่อยจอง 1,478 หน่วย จากโครงการรองรับเพียง 660 หน่วย เกินเป้าหมายร้อยละ 200 เมื่อได้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้จองสิทธิ์กลับพบว่า ไม่ผ่านเงื่อนไขที่กำหนดเกินครึ่ง เนื่องจากติดปัญหาเรื่องบ้านหลังแรกจำวนวนมาก เนื่องจากได้ เช่าอาศัย หรือสร้างบ้านบุกรุกที่หลวง แต่มีทะเบียนบ้าน จึงเข้าข่ายการมีบ้านหลังแรก การผ่อนปรนข้อกำหนดจะครอบคลุมทั้งเฟสแรกและเฟส 2 จึงต้องปรับเงื่อนไขเพิ่มเติมกับผู้มีรายได้น้อย
สำหรับการสร้างที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ ผ่านโครงการใช้ที่ราชพัสดุมาใช้สร้างที่อยู่อาศัย 4 พื้นที่ ได้แก่ จ.ชลบุรี ใช้พื้นที่ 50 ไร่ นครนายก จำนวน 14 ไร่ เชียงใหม่ 7.5 ไร่ เชียงราย จำนวน 64 ไร่ โครงการดังกล่าวจะเป็นรูปแบบคอมเพล็กซ์ดูแลผู้สูงอายุ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนให้ภาคเอกชนที่สนใจเข้ามาพัฒนาโครงการเสนอรูแบบการก่อสร้างและดูแลโครงการ คุณสมบัติเบื้องต้นเหมือนกับบ้านธนารักษ์ประชารัฐ โดยต้องมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการจัดทำกิจกรรม สถานที่ปฐมพยาบาล สิ่งแวดล้อมโดยรอบ กำหนดให้บุตรหลานผู้ดูแลบิดา มารดา ได้สิทธิ์จองเป็นอันดับแรก กำหนดอัตราค่าเช่าพักอาศัย 1 บาทต่อตารางวาต่อปี รวมค่าธรรมเนียมประมาณ 24 บาทต่อตารางวา ระยะเวลาเช่าระยะเวลา 30 ปี ต่ออายุได้อีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปี โดยมอบหมายให้ ธอส.และออมสิน ปล่อยสินเชื่อสำหรับการสร้างโครงการกับผู้ประกอบการวงเงิน 4,000 ล้านบาท และร่วมปล่อยสินเชื่อให้กับรายย่อยเพื่อซื้อบ้านคนชราเพื่ออยู่อาศัย นอกจากที่อยู่อาศัยเฟสแรกแล้ว กรมธนารักษ์ยังสำรวจพื้นที่สำหรับการสร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้สูงอายุเพิ่มเติมอีก 7 แปลง ในเฟส 2 เช่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก.-สำนักข่าวไทย