กรุงเทพฯ 15ม.ค. – ปลัดมท.ส่งจดหมายด่วนสั่งเตรียมแผนรับมือ-เร่งระบายน้ำล่วงหน้า ชี้พุนพิน-รอบทะเลน้อย-ระโนด จ่อน้ำท่วมสูงอีกรอบ แนะใช้แนวทางพระราชทาน ในหลวง ร.9 แก้ปัญหา
นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุดถึง เลขาธิการป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ อธิบดีทุกกรม ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ทุกจังหวัด ให้เตรียมแผนรับมือน้ำท่วม หลังกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่า วันที่ 16-18 ม.ค. จะเกิดภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ระลอกใหม่ หลังประกาศยกระดับภัยจากระดับ 2 เป็นระดับ 3 โดยสั่งการให้จังหวัดแต่งตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัดจาก ปภ.จังหวัด เป็นระดับรอง ผวจ.หรือ ปลัดจังหวัด ในระดับอำเภอให้มอบหมายปลัดอำเภออาวุโสรับผิดชอบแทนปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง หรือ ปลัดป้องกัน และให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานได้ประชุมเน้นย้ำ กำกับติดตามงานโดยใกล้ชิด รวมทั้งให้มีการระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุกหน่วยมาร่วมงาน ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยให้พร้อมเพรียงตามแผนการป้องและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ไม่ควรอ้างคำสั่งแบ่งงานตามภาวะปกติเพื่อปฏิเสธงานหรือความรับผิดชอบในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้อย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้คาดว่าอาจเกิดเหตุน้ำท่วมสูงอีกครั้ง ในพื้นที่ลุ่มต่ำของ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และอำเภอรอบทะเลน้อย จ.พัทลุงต่อเนื่องทะเลสาบสงขลาบริเวณ อ.ระโนด นั้น ขอให้ ผวจ.ในพื้นที่ได้ประสานงานกับหน่วยทหารเรือ หรือหน่วยชลประทานและหน่วยต่างๆเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำและ/หรือเครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่ดังกล่าวล่วงหน้าเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ไว้ก่อน และเมื่อเกิดน้ำท่วมจนเกิดพื้นที่วิกฤตขอให้แต่งตั้งผู้บัญชาการเหตุการณ์เข้าไปรับผิดชอบพื้นที่โดยตรงเพื่อประสานงานกับหน่วยต่างๆในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนตามขั้นตอนต่างๆที่ได้แจ้งไปแล้ว
ในหนังสือระบุอีกว่า ขณะนี้มีการอนุมัติให้ขยายวงเงินงบกลางเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯเป็นจังหวัดละ 50 ล้านบาทพร้อมทั้งได้ยกเว้นระเบียบให้จังหวัดสามารถใช้งบดังกล่าวแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในเรื่องต่างๆได้แล้ว เช่นการซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงสนับสนุนหน่วยงานทหารหรืออื่นๆที่ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆมาแก้ไขปัญหาให้พื้นที่ จึงขอให้จังหวัดศึกษาระเบียบแนวทางใหม่ดังกล่าวให้เข้าใจ รวมถึงขอให้วางแผนการบริหารการแจกจ่ายถุงยังชีพต่างๆให้เป็นระบบและทั่วถึงครอบคลุมผู้ประสบภัยทุกครัวเรือน ส่วนในพื้นที่ที่ภัยยุติหรือน้ำลดแล้วให้มอบหมาย อปท.และหน่วยงานสาธารณสุข หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำความสะอาด (big cleaning)พ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด รวมทั้งจัดทีมแพทย์ไปแนะนำการป้องกันโรคหลังน้ำท่วมเช่น โรคฉี่หนู โรคตาแดง ท้องร่วง ไข้หวัดไว้ด้วย
ปลัดมท.ยังเน้นย้ำให้เร่งชี้แจงทำความเข้าใจ หรือแนะนำเกี่ยวกับการใช้ความระมัดระวังการใช้ชีวิตระหว่างน้ำท่วมหลังพบตัวเลขผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมมีตัวเลขสูงขึ้น สำหรับในพื้นที่จ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี ระนอง หรือพื้นที่อื่นๆซึ่งเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้วขอให้จังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายด้านต่างๆรวมทั้งการเยียวยาประชาชนที่ประสบอุทกภัยตามระเบียบต่างๆให้เรียบร้อยและรวดเร็ว รวมทั้งให้ศึกษาทบทวนแผนปฏิบัติงานเดิมที่ไม่สำเร็จ และพื้นที่เกิดเหตุซ้ำซากเพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงวางแนวทางและโครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาว เช่น การแก้ไขสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ การสร้างแหล่งเก็บกักน้ำ(แก้มลิง ) สิ่งสำคัญคือให้นำแนวทางบริหารจัดการน้ำท่วมและน้ำแล้งตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้พระราชทานแนวทางไว้ให้แล้วมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ด้วย.-สำนักข่าวไทย