พม.14 พ.ย.-รมว.พัฒนาสังคมฯ และกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ร่วมหารือแนวทางบูรณาการช่วยเหลือหญิงไทย และคนไทยในนครลอสแอนเจลิส
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้นายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะพร้อมหารือความร่วมมือในการช่วยเหลือหญิงไทยและคนไทยในนครลอสแอนเจลิส ที่ประสบปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาครอบครัว การเข้าเมืองผิดกฎหมาย การจ้างงาน ด้านภาษาและการสื่อสาร เป็นต้น ส่งผลให้หญิงไทยและคนไทยไม่ได้รับการช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ณ ห้องรับรองชั้น 9 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
รมว.พัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า เนื่องด้วยหญิงไทยและคนไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในนครลอสแอนเจลิส ประสบปัญหาด้านต่างๆ เช่น ปัญหาครอบครัว (กฎหมายครอบครัวและการหย่าร้างกับสามีชาวอเมริกัน) การเข้าเมืองผิดกฎหมาย แรงงานผิดกฎหมายทำให้ไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม อีกทั้งปัญหาเรื่องภาษาและการสื่อสาร ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ส่งผลให้หญิงไทยและคนไทยไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้องและเหมาะสม จึงหารือร่วมกับกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ ถึงแนวทางการช่วยเหลือหญิงไทยและคนไทยดังกล่าว
สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือที่กระทรวงจะดำเนินการ คือ 1) ให้องค์กรเอกชนที่ให้ความช่วยเหลือหญิงไทยและคนไทย จดทะเบียนรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์เพื่อเสนอโครงการขอสนับสนุนเงินจากกองทุนสวัสดิการสังคมในการดำเนินงานขององค์กรเพื่อช่วยเหลือหญิง ไทยและคนไทยต่อไป 2) สนับสนุนองค์ความรู้ให้กับหญิงไทย โดยการอบรมให้ความรู้กับหญิงไทย ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ 3)เปิดช่องทางในการช่วยเหลือหญิงไทยในต่างประเทศ ผ่านเว็บไซต์ www.yingthai.net เพื่อเป็นสื่อกลางช่วยเหลือหญิงไทยและคนไทยในต่างประเทศ 4) พัฒนาแอปพลิเคชันในการช่วยเหลือหญิงไทย ผ่านแอปพลิเคชัน yingthai และ 5)เชื่อมโยงเครือข่ายหญิงไทยในยุโรปกับเครือข่ายหญิงไทยในสหรัฐฯ
ส่วนแนวทางให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เป็นหน่วยงานกลางเชื่อมโยงเครือข่ายการให้ความช่วยเหลือ อาทิสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.)กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) และ กต.สนับสนุนให้คนไทยในแต่ละรัฐรวมกลุ่มเพื่อจัดตั้งเครือข่ายให้ความช่วยเหลือหญิงไทยในสหรัฐฯ และ กพ. เชิญชวนให้นักเรียนทุนรัฐบาลและนักเรียนทุนส่วนตัวในสหรัฐฯมาเป็นล่ามอาสาสมัคร ให้ความช่วยเหลือหญิงไทยในสหรัฐฯ
นอกจากนี้องค์กรเอกชน (NGOs) อาทิ 1) Thai CDC ให้ความช่วยเหลือคนไทยติดตามเงินชดเชยแก่คนเดินทางกลับภูมิลำเนาและให้ความช่วย เหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิจากการทำงานในสหรัฐฯ รวมทั้งปราบปรามการค้ามนุษย์และละเมิดผู้ใช้สิทธิแรงงาน 2)ศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชนให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยด้านสุขภาพ เช่น ให้คำแนะนำเรื่องสถานพยาบาลราคาต่ำ การเจรจาต่อรองเรื่องค่ารักษา พยาบาลและการยื่นเรื่องประกันสุขภาพ 3)สมาคมนักกฎหมายให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย เป็นทนาย ความช่วยเหลือเรื่องต่างๆแต่ขาดล่ามแปลภาษาในการสื่อสารช่วยเหลือคนไทยกับเจ้าหน้าที่ของสมาคม และ 4)Center for Pacific Asian Family และ Women, Infants, and Children Food and Nutrition สร้างและขยายเครือข่ายให้ความช่วยเหลือคนไทยในภาคส่วนต่างๆ อย่างรวดเร็ว .-สำนักข่าวไทย