จับสึกหลวงพี่เลือดร้อน ชกหน้า รปภ.โรงพยาบาล



นครสวรรค์ 18 ม.ค.-แชร์ว่อน ชายแต่งกายชุดพระสงฆ์ ต่อยหน้าเจ้าหน้าที่ รปภ. ถูกนำตัวส่งวัดจับสึกทันที พบเป็นแค่เณร มีอาการเหมือนคนสติเพี้ยน ชอบแอบอ้าง ตระเวนขอรับเงินบริจาค


18-1-2560 22-56-30 18-1-2560 22-56-48

วันนี้ (18 มกราคม 2560) ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ บนเพจเฟซบุ๊ก “แจ้งข่าวสถานการณ์น้ำนครสวรรค์ 24 ชั่วโมง” ได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ ชายวัยกลางคน แต่งกายชุดพระสงฆ์ กำลังถูกเจ้าหน้าที่ รปภ.โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ 2 นาย ควบคุมตัวออกจากโรงพยาบาล แล้วจู่ๆ ก็เกิดการชุลมุนขึ้น เมื่อผู้ที่แต่งกายเป็นพระสงฆ์ เกิดอารม์ฉุนเฉียวแล้วขัดขืน ก่อนจะเหวี่ยงกำปั้นเข้าไปที่หน้าของเจ้าหน้าที่ รปภ. นายหนึ่ง พร้อมกับส่งเสียงดังโวยวาย พูดจาหยาบคลาย แต่สุดท้ายก็ถูกควบคุมขึ้นรถแต่โดยดี โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครนครสวรรค์นำรถมาจอดรับที่ด้านหลังโรงพยาบาล ซึ่งคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก คือ “ยอดชาย” เป็นผู้โพสต์ไว้ พร้อมระบุข้อความว่า “ดูเอาเองครับว่าใช่พระจริงหรือป่าว” จนมีผู้คนเข้ามาแชร์คลิปกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการแสดงความคิดเห็นต่อว่าพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ที่แต่งกายเป็นพระสงฆ์คนดังกล่าว ไปต่างๆ นาๆ ด้วย

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครนครสวรรค์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รับการเปิดเผยว่า ผู้ที่แต่งกายห่มจีวรที่เห็นอยู่ในคลิปนั้น ไม่ใช่พระ แต่มาทราบภายหลังว่า เป็นเณร ชื่อก่อนบวชคือ นายประเสริฐ วงษ์เลี้ยง อายุ 50 ปี ชาว จ.อยุธยา โดยถูกควบคุมตัวนำไปสึก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ภายในงานกิจกรรมปั่นจักรยานที่ทางเทศบาลนครนครสวรรค์และหน่วยงานภาคเอกชนจัดขึ้น ปรากฏว่า นายประเสริฐ ที่ยังอยู่ในคาบผ้าเหลือง เดินเข้ามาสร้างความปั่นป่วนภายในงาน อีกทั้ง ยังได้นำฝาบาตรพระไปตีศรีษะเจ้าหน้าที่เทศกิจรายหนึ่งอย่างแรงด้วย แต่เหตุการณ์คราวนั้นไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากคิดว่าเป็นพระจริง และเจ้าตัวจะออกอาการเพี้ยน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวออกจากงานไป จนกระทั่งวันนี้ ทางผู้บังคับบัญชา ได้รับการประสานแจ้งจากสำนักสงฆ์นครสวรรค์ ให้เจ้าหน้าเทศกิจเฝ้าจับตามดูพฤติกรรมของนายประเสริฐ หากพบตัวให้ควบคุมตัวนำไปสึกได้ทันที เพราะมาทราบพฤติกรรมว่า ชอบแอบอ้างเป็นคนสนิทข้าราชการระดับสูงในจังหวัดหลายคน และเป็นนักข่าวทั้งหนังสือพิมพ์ และทีวีหลายสังกัด ไปตระเวนขอรับเงินบริจาค อ้างว่าจะนำไปบริจาคช่วยเหลือให้ผู้ประสบภัยภาคใต้ ส่วนเหตุที่ปรากฏอยู่ภายในคลิป ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจไปพบเจอนายประเสริฐ กำลังเดินอยู่ภายในโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลให้ควบคุมตัวออกมา จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ รปภ. คือ นายเอก ทองแม้น จะถูกนายประเสริฐ ทำร้ายระหว่างควบคุมตัว แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ และตอบโต้แต่อย่างใด มีเพียงแว่นตาที่ใส่ได้รับความเสียหายเท่านั้น จึงนำตัวส่งไปสึกที่วัดพรหมจริยาวาส ทันที


ด้านพระครูสิริพรหมทัต เจ้าอาวาสวัดพรหมจริยาวาส เปิดเผยว่า นายประเสริฐ ซึ่งมีอาการเหมือนคนสติเพี้ยน ได้มาขอบวชอยู่ที่วัดเมื่อ 2 เดือนก่อน จึงแนะนำให้นายประเสิฐบวชเป็นเณรไปก่อน แต่ปรากฏว่า พอบวชเสร็จยังไม่ทันข้ามคืน นายประเสริฐ ก็หนีหายออกจากวัดไปทันที จนกระทั่งมาเกิดเรื่อง ถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจควบคุมตัวมาสึก เพราะผิดวินัยสงฆ์เอาฝาบาตรไปตีหัวคน ซึ่งในระหว่างที่จะทำการสึกนั้น ปรากฏว่า นายประเสริฐ เกิดอาการคลุ้มคลั่งไม่ยอมสึก แล้วเดินแก้ผ้าไปทั่วกุฏิ จนเจ้าหน้าที่เทศกิจต้องรีบเข้ามารุมจับใส่เสื้อผ้า ก่อนประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ให้นำตัวไปสงบสติ และมาทราบภายหลังว่าถูกดำเนินคดี ข้อหาเรี่ยไรเถื่อน และอนาจารในเวลาต่อมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]