รถกู้ชีพชนกระบะ คู่กรณียื้อ จนคนป่วยตาย



นนทบุรี 18 ม.ค.-รถกู้ชีพกำลังไปรับผู้ป่วย เกิดอุบัติเหตุชนกระบะ แต่คู่กรณีไม่ให้ไปรับผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต


18-1-2560 22-57-39 18-1-2560 22-58-05

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 ม.ค.60 ร.ต.อ.ธนัญชัย คันธหัตถี ร้อยเวร สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุบางบัวทอง ว่ามีรถเฉี่ยวชนกันบริเวณถนนกาญจนาภิเษก หมู่ 3 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่

ที่เกิดเหตุเป็นถนนขาออก มุ่งหน้าบางปะอิน ช่วงปากซอยวัดลาดปลาดุก พบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมูเตอร์ สีขาว ทะเบียน กร1767 นนทบุรี เป็นรถกู้ชีพโรงพยาบาลบางบัวทอง จ.นนทบุรี ทราบชื่อผู้ขับขี่คือนายณัชพล สาคร อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ สภาพมีร่องรอยการชนที่ด้านซ้ายหลัง ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถยนต์กระบะ สภาพมีร่องรอยการชนที่ด้านข้างกลางตัวรถ ผู้ขับขี่คือนายชัยวัฒน์


จากการสอบสวน นายณัชพล สาคร ทราบว่า ตนเองได้รับแจ้งจากกู้ชีพ รพ.พระนั่งเกล้า ว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจและมีอาการหยุดหายใจไปสักพัก ที่หมู่บ้านบัวทอง ซอย 18 จึงได้รีบขับรถเพื่อไปเคสดังกล่าวโดยเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก่อนเข้าซอยวัดลาดปลาดุก รถคู่กรณีขับอยู่ในช่องจราจรกลาง ส่วนตนเองอยู่ในช่องขวาสุด เห็นว่ารถคู่กรณีกำลังจะเลี้ยวเข้าซอยจึงได้เลี้ยวตาม แต่ต่อมารถคู่กรณีไม่เลี้ยวจึงได้หักหลบจนเกิดเหตุเฉี่ยวชนกันเล็กน้อย ตนเองได้ลงไปพูดคุยกับคู่กรณีและขอไปช่วยรับผู้ป่วยก่อน ถ้ามีอะไรให้ไปหาที่โรงพยาบาล แต่คู่กรณีไม่ยอมให้ไปช่วยผู้ป่วย ให้รออยู่ตรงนี้ จนต้องแจ้ง รพ.พระนั่งเกล้า ให้ส่งรถกู้ชีพคันใหม่ไปช่วยแทน ตนเองก็ไม่รู้เขาคิดอะไร ฝากข้อคิดให้ประชาชนด้วยตัดสินใจและวิเคราะห์แทนทีว่าตนเองทำถูกหรือทำผิดที่จะไปช่วยผู้ป่วยก่อน ส่วนเรื่องที่รถชน ผิดก็ยอมรับทุกอย่างให้คู่กรณีไปซ่อมรถ ตนเองยอมจ่ายให้ เพราะเรื่องชนนั้นมันเป็นรอยเล็กน้อยมาก มันไม่สามารถแลกกับชีวิตของผู้ป่วยที่รอการช่วยชีวิตได้ ซึ่งหลังเกิดเหตุดังกล่าวผู้ป่วยรายนี้ได้เสียชีวิตลงแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาประมาทร่วม ปรับเป็นเงินคนละ 400 บาท และให้เจ้าหน้าที่ประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนผู้ป่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทองได้รับแจ้งว่า นางชูศรี อ่อนสัมพันธ์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/271 หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เสียชีวิตเพราะเกิดอาการหายในไม่ออก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก