อภิสิทธิ์ พร้อมร่วมมือให้ข้อมูลหนุนปรองดอง

010พรรคประชาธิปัตย์ 19 ม.ค.-หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าการที่รัฐบาลเตรียมส่งคนเดินสายรับฟังความเห็นเรื่องปรองดอง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ไม่ควรยึดตึดกับการลงสัตยาบัน พร้อมแนะเดินไปข้างหน้าและปล่อยให้เรื่องอดีตเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากจะนิรโทษกรรมควรให้เฉพาะประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบและความผิดเล็กน้อย


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลตั้งคณะทำงานมาดูเรื่องปรองดอง ว่า การที่จะให้คณะกรรมการชุดนี้เดินสายพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องแต่ละฝ่าย ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยินดีที่จะให้ข้อมูลและถือว่าการใช้วิธีการแบบนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ความปรองดองเดินหน้าไปได้ แต่สิ่งสำคัญจะต้องพูดคุยให้ครอบคลุมทุกฝ่าย รวมทั้งภาคสังคมและประชาชน อย่ายึดติดแค่พรรคการเมือง โดยต้องสรุปบทเรียนให้ถูกว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นล่าสุดไม่ได้เกิดจากพรรคการเมือง แต่เกิดจากความพยายามผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ เพราะหากตั้งโจทย์ผิด ก็ไม่สามารถทำให้ความขัดแย้งคลี่คลายได้ ดังนั้นจึงไม่ควรยึดติดกับการให้พรรคการเมืองมาลงนามสัตยาบัน เพราะพรรคการเมืองไม่สามารถตอบแทนประชาชนทุกคนได้ แต่อยากให้รัฐบาลและทุกฝ่ายย้อนกลับไปดูว่าที่มีปัญหาขัดแย้งกันไม่ได้เกิดจากผลการเลือกตั้ง

“ผมไม่ทราบว่าเนื้อหาสาระที่อยากให้ตกลงทำสัตยาบันกันเป็นอย่างไร แต่อยากย้ำว่าเรื่องของการลงนามในเอกสาร ไม่ได้เป็นหลักประกัน เพราะคนที่ไปลงนามกล้ายืนยันหรือไม่ว่าประชาชนจะเห็นด้วยเหมือนกับตัวเอง เพราะแม้กระทั่งพรรคการเมืองก็พูดไม่ได้ ผมจึงอยากให้นำเรื่องความขัดแย้งมาพูดกันแบบเปิดใจ และที่เคยขอความเห็นฝ่ายต่าง ๆ มา ก็ควรนำมาสรุป ซึ่งผมก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล และอยากให้ความขัดแย้งมันจบเร็ว ๆ เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี แต่อย่าเอามาผูกติดกับการเลือกตั้ง ถ้าหวังว่าพรรคการเมืองอยากเลือกตั้ง แล้วให้มาตกลงกัน ถ้าไม่ตกลงแล้วจะไม่มีเลือกตั้ง ผมว่ามันก็ไม่จบ ควรว่ากันด้วยเหตุด้วยผล และผมว่าอย่าจับกันเป็นคู่ขัดแย้ง แต่ผมว่าทุกคนที่มีบทบาทในสังคมควรไปรับฟังความเห็นจากเขา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว


นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า อยากให้คนที่ทำงานด้านความปรองดองคำนึงถึงเนื้อหาสาระและให้นำสิ่งที่คณะทำงานชุดเก่า ๆ เคยศึกษาและสรุปออกมา นำมาประกอบการทำงานสร้างความปรองดอง และสิ่งสำคัญขอยืนยันว่าการทำผิดกฎหมายหรือการใช้ความรุนแรงจะต้องมีความรับผิดชอบ โดยควรปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าทำงาน หากจะยกเว้น ก็ควรนิรโทษให้เฉพาะกรณีของประชาชนที่มาชุมนุมแล้วทำผิดกฎหมายพิเศษและทำผิดเพียงเล็กน้อย ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีก็พูดมาตลอดว่าต้องรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย จึงอยากให้ยึดหลักการในส่วนนี้ และอยากให้มองไปข้างหน้าว่าขณะนี้โลกเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมการปลุกระดมและสร้างความขัดแย้ง โดยผ่านวิทยุชุมชน แต่ปัจจุบันมีอินเทอร์เน็ตและมีสังคมออนไลน์ที่จะต้องเข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้