ภูมิภาค 21 ม.ค.-น้ำท่วมใต้หลายพื้นที่ยังน่าห่วง เนื่องจากมีฝนตกลงมาในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ที่เริ่มคลี่คลายกลับมารุนแรงอีกรอบ
ที่จังหวัดนราธิวาส ยังคงมีฝนตกครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลให้แม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโกลก บางนราและสายบุรี ล้นตลิ่ง และไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่ทางเกษตรเกษตรของประชาชนรวมถึงโรงเรียนต่างๆ และมีแนวโน้มน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องพื้นที่ 2 ฝั่งริมน้ำด้านอำเภอสุไหงโกลก ระดับน้ำสูง 1-1.50 เมตร โดยเฉพาะในพื้นที่ 9 ชุมชน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก ถูกน้ำท่วมซ้ำซากเป็นระลอกที่ 3 บางครอบครัวต้องอพยพไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เนื่องจากน้ำท่วมสูงมิดตัวบ้านชั้นล่าง นอกจากนี้น้ำที่ไหลเชี่ยวยังกัดเซาะถนนยางมะตอยทางเข้าบ้านค่าย หมู่ 2 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมืองนราธิวาส จนขาดเป็นทางยาวกว่า 5 เมตร รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ อบต.กะลุวอเหนือยังไม่สามารถเข้าซ่อมแซมได้ เนื่องจากต้องรอน้ำลดลงกว่านี้
ส่วนที่จังหวัดยะลา ยังมีฝนตกลงมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ทำให้มีน้ำสะสมประกอบกับท่อระบายน้ำออกไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากในเขตอำภอเมืองยะลาระดับน้ำสูง 20-30 เซนติเมตร ขณะที่ชลประทานจังหวัดยะลาทำหนังสือด่วน เตือนประชาชนท้ายเขื่อน ในเขตอำเภอเมือง หนองจิก ยะรัง จังหวัดปัตตานีให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ เตรียมขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูง เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานี ที่ไหลมาจากอำเภอบันนังสตา กรงปินัง และอำเภอเมืองยะลา มีมวลน้ำปริมาณมากจากปริมาณฝนตกสะสม จะไหลไปสมทบกับปริมาณน้ำในเขื่อนปัตตานี และไหลลงปลายน้ำที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในพื้นที่ริมแม่น้ำปัตตานี ขณะที่เขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ยังสามารถรับน้ำได้อีก 600 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการปล่อยน้ำจากเขื่อนบางลาง แต่อย่างใด
จังหวัดตรัง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอห้วยยอดเป็นรอบที่ 4 และอำเภอรัษฎาเป็นรอบที่ 3 ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน ชาวบ้านกว่า 60 หลังคาเรือนต้องขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกลางดึก ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากฝนตกสะสม โดยยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง ทำหนังสือประกาศเตือนพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก และพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่มทั้ง 7 อำเภอกว่า 150 หมู่บ้าน เฝ้าระวังปริมาณฝนที่ตกสะสมประกอบกับของเดิมที่ยังท่วมขังอยู่ในพื้นที่สวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน จะทำให้ปริมาณน้ำในลำคลองหลายสายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งสูบระบายน้ำออกจากทะเลสาบสงขลา ซึ่งมีปริมาณมากและท่วมขังพื้นที่ลุ่มริมทะเล ของอำเภอระโนดและกระแสสินธุ์ให้ลงอ่าวไทย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน 4 อำเภอ ริมทะเลสาบสงขลา หลังฝนตกลงมาเพิ่มทำให้เกิดน้ำท่วมในอำเภอสะบ้าย้อยรอบที่ 4 ส่วนน้ำที่ท่วมขังอำเภอเมืองสงขลา จากปัญหาระบายไม่ทันล่าสุดน้ำลดลงจนกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
เช่นเดียวกับที่จังหวัดพัทลุง น้ำป่าจากเขตรักษาพันสัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดหลากจากเทือกเขาเข้าท่วมพื้นที่อำเภอศรีบรรพต ระดับน้ำสูง 40-50 เซนติเมตร บางจุดกระแสน้ำไหลเชียว และกักเซาะพนังกันขาด ตำรวจทหารสนธิกำลังช่วยเหลือชาวบ้านและพระสงฆ์ สำหรับจังหวัดพัทลุงถูกน้ำท่วมมาเป็น 4 ระลอก ทำให้ชาวบ้านยังไม่ขนย้ายสิ่งของลงจากที่สูง เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์
ล่าสุดปภ. เตือน 7 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก จากความกดอากาศสูงกำลังค่อนข่างแรงจากประเทศจีน แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ช่วงวันที่ 21 – 25 มกราคมนี้ ขณะที่มี 5 จังหวัด คือระนอง นราธิวาส ปัตตานี กระบี่ และตรังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างการฟื้นฟู .-สำนักข่าวไทย