ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยให้การกรณีคลิปนั่งท้ายกระโปรงรถ

กทม. 15 พ.ย.- ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ผู้โพสต์คลิปหญิงสาวนั่งท้ายกระโปรงรถยนต์สร้างความหวาดเสียว และมีการแชร์กันในโลกโซเชียลและยอดเข้าชมทะลุ 2,300,000 วิว เข้าให้การกับตำรวจ สน.หัวหมาก


นางสาวอรวรรณ เผือกไธสง ผู้สื่อข่าว และผู้ดำเนินรายการข่าวดังข้ามเวลา สำนักข่าวไทย บมจ.อสมท เข้าให้ปากคำกับพันตำรวจโทนพพร ศรีสุชาติ รองผู้กำกับการสอบสวน สน.หัวหมาก สืบเนื่องจากเห็นเหตุการณ์หญิงสาวนั่งอยู่บนกระโปรงท้ายรถยนต์ขณะรถวิ่ง สร้างความหวาดเสียว ขณะรถข่าวของสำนักข่าวไทยขับผ่านถนนมอเตอร์เวย์เข้าสู่ถนนพระรามเก้า ถึงใต้ทางด่วนพระราม 9 ซึ่งที่มีการแชร์คลิปในโลกออนไลน์ และมียอดเข้าชมทะลุ 2,300,000 วิวแล้ว

นางสาวอรวรรณ กล่าวว่า เป็นผู้โพสต์คลิปที่นายปวริศ กาศกุล ช่างภาพสังกัดเดียวกัน เป็นคนบันทึกภาพ ยอมรับครั้งแรกที่เห็น ไม่คิดว่าเป็นคน แต่เมื่อสอบถามทีมงานซึ่งนั่งรถมาด้วยกัน ยืนยันว่าเห็นเหมือนกัน จึงเชื่อว่าเป็นคน ซึ่งหญิงคนดังกล่าวไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ โดยนั่งเฉย มองตาขวาง ยิ่งทำให้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น คาดอายุหญิงคนดังกล่าวราว 30 ปี สาเหตุที่ไม่ปาดหน้ารถ เนื่องจากเกรงว่าหญิงคนดังกล่าวอาจได้รับอันตราย ประกอบกับเวลานั้นมีรถหลายคันที่อยู่บนท้องถนน จึงทำได้เพียงขับรถประกบข้างและพยายามแจ้งให้คนขับรถทราบ อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายวันนี้ (15 พ.ย.) นายทรงกฤษณ์ ไพศาลธรรม ผู้ช่วยช่างภาพ ซึ่งทำหน้าที่ขับรถในวันนั้น จะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ


ด้านตำรวจขอร่วมมือประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ และมีกล้องหน้ารถ เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจในฐานะพยาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดตามรถ และผู้หญิงคนดังกล่าวมาให้ปากคำต่อไป

ล่าสุด ตำรวจพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวแล้ว น่าจะเป็นทะเบียน 3กบ 2748 กทม. เป็นรถแท็กซี่เก่าปลดระวาง อยู่ระหว่างประสานเจ้าของรถเข้าให้ปากคำ ส่วนชายที่ขับรถวันนั้น มีความผิดตามพระราชาบัญญัติการจราจรทางบก มาตรา 43 “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นคดีอาญาต้องส่งฟ้องศาล ส่วนหญิงสาวนั่งท้ายกระโปรงรถ ผิดพระราชาบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 124 ห้ามเกาะห้อยโหน หรือนั่งบนรถยนต์ขณะรถกำลังเคลื่อนที่ในทางเดินรถ มีโทษปรับ 500 บาท.-สำนักข่าวไทย

ชมชัดๆ คลิปหญิงสาวนั่งบนท้ายกระโปรงรถยนต์


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว