ทีเอ็มบีระบุ ทรัมป์-BREXIT กดดันอัตราแลกเปลี่ยน

กรุงเทพฯ 23 ม.ค. – ทีเอ็มบีชี้นโยบาย” ทรัมป์ ” และ BREXIT กดดันตลาดอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน คาดเงินบาทแกว่งระหว่าง 35.50-36.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ประเมินเศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 3.5


นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจตลาดทุน ธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี กล่าวว่า  การเคลื่อนไหวของปัจจัยการเมืองต่างประเทศ  ทั้งนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ การที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป ( BREXIT ) ในเดือนมีนาคม นี้ และผลการเลือกตั้งของประเทศต่างๆ ในกลุ่มสหภาพยุโรป ( อียู) โดยเฉพาะฝรั่งเศส ซึ่งมีความกังวลว่าจะออกจากการเป็นสมาชิกอียูเหมือนสหราชอาณาจักร  เป็นปัจจัยสำคัญกระทบต่อตลาดอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนในปีนี้ โดยตลาดการเงินคาดหวังต่อนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งการส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐที่จะขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละร้อยละ 0.25ในช่วงกลางปีและปลายปีนี้  ทำให้สิ้นสุดยุคอัตราดอกเบี้ยต่ำ  จะมีผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าต่อเนื่องในครึ่งแรกของปีนี้

แต่ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเป็นร้อยละ 45 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย และนโยบายอีกหลายอย่างที่อาจจะไม่เป็นตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ จะมีผลทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐกลับตัวอ่อนค่า ประกอบกับมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของกลุ่มอียูจะสิ้นสุดลงในปีนี้ และ มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ของธนาคารญี่ปุ่นมีข้อจำกัด  จะกดดันให้ค่าเงินยูโรและ เยนแข็งค่าขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี


ขณะที่ค่าเงินบาทระหว่างปีมีโอกาสอ่อนค่าถึงระดับ 36.80 บาท คาดว่าปลายปีนี้จะกลับมาแข็งค่าอยู่ที่ 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ   เนื่องจากเงินทุนไหลกลับจากโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง ที่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะสามารถรองรับความผันผวนได้

“ปี 2559 เป็นปีที่ค่าเงินบาทมีความผันผวนสูงมากกว่าร้อยละ 5 คาดว่าความผันผวนจะยังคงอยู่แต่อาจจะไม่รุนแรงเท่ากับปีก่อน โดยขึ้นอยู่ผลการเลือกตั้งของประเทศต่างๆ ในกลุ่มสหภาพยุโรป ( อียู) ว่าจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดหรือไม่ รวมทั้งขั้นตอนการออกจากการเป็นสมาชิกอียูของสหราชอาณาจักร หากกระบวนการยืดเยื้อก็จะมีผลต่อความผันผวนต่อไป แต่หากเทียบกับเพิ่อนบ้าน มองว่าเงินบาทไทยมีเสถียรภาพมากกว่า” นายศรัณย์ กล่าว

ส่วนเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.5 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 3.3 โดยแรงส่งมาจากการลงทุนภาครัฐและรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวต่ำกว่าศักยภาพ ส่วนการส่งออกจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ขยายตัวร้อยละ 1.5 ในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจะลดน้อยลง เนื่องจากการเร่งตัวขึ้นของการนำเข้า โดยมีปัจจัยจากราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2 จากร้อยละ 0.4 ในปีก่อน เป็นผลมาจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับขึ้น อย่างไรก็ตามแม้เงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้น แต่คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 1.50 ตลอดปี 2560 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ


ในขณะที่สภาพคล่องของระบบการเงินมีแนวโน้มลดลง จากการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ และ การระดมทุนของภาครัฐผ่านการกู้ยืมและการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้นจะมีผลกระทบทำให้ต้นทุนการเงินเพิ่มสูงขึ้น ความเสี่ยงทางการเงินของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งหากมีความต้องการสินเชื่อในระบบเพิ่มขึ้นมาก อาจจะส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นก่อนดอกเบี้ยนโยบาย.- สำนักข่าวไทย

 

 

 

 

 

ส่งจาก iPad ของฉัน

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย