กบร.เคาะแนวทางปลดธงแดง

ก.คมนาคม  23 ม.ค. – กบร.เคาะแนวทางปลดธงแดง ICAO ตั้งเป้า มิ.ย.ปีนี้ตรวจออกใบอนุญาต 9 สายการบินสำคัญ พร้อมเชิญ ICAO  กลับมาตรวจซ้ำ มั่นใจนำไปสู่การปลดธงแดง


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) วันนี้  ว่า  สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) รายงานความคืบหน้าและกรอบเวลาดำเนินการ  เพื่อแก้ปัญหาควาปลอดภัยทางการบิน หลังจากองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO ) ปักธงแดงมาตรฐานความปลอดภัยของไทยตั้งแต่ 2557  โดยขณะนี้เป้าหมายดำเนินการ ภายในเดือนมิถุนายน 2560 กพท.มั่นใจว่าจะสามารถตรวจมาตรฐานเพื่อออกอนุญาตใหม่ให้แก่สายการบินขนาดใหญ่รายสำคัญ 9  สายการบิน จากทั้งหมด 23  สายการบิน  และเมื่อมีการออกใบอนุญาตทั้ง  9 แห่งแล้ว ฝ่ายไทยจะเชิญ ICAO กลับมาตรวจมาตรฐานซ้ำอีกครั้ง

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมั่นใจว่าแนวทางดังกล่าวที่ดำเนินการทั้งหมดก่อนหน้านี้ ทั้งการแก้ปัญหาข้อบกพร่องที่มีนัยยะสำคัญต่อความปลอดภัย 33 ข้อ  รวมถึงการปรับแก้ไข พ.ร.บ.เดินอากาศฉบับเดิม เป็น พ.ร.บ.การบินพลเรือนฉบับใหม่ ที่เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาในเดือนมกราคมนี้  ปัจจัยทั้งหมดน่าจะช่วยให้การพิจารณามาตรฐานความปลอดภัยของ ICAO ที่มีต่อไทยปรับตัวดีขึ้น


นอกจากนี้  กระทรวงคมนาคมยังสั่งการ กพท. กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ให้เตรียมความพร้อมรองรับการตรวจมาตรฐานในโครงการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัย (Universal Security Audit Programme:USAP) ที่ ICAO จะเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานของไทยเพิ่มด้วย โดยจะมีการเชิญ ICAO เข้ามาตรวจมาตรฐานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าขณะนี้ไทยมีความพร้อม หาก ICAO จะตรวจสอบมาตรฐานด้านดังกล่าว โดยการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของท่าอากาศยานนั้น จะมีการดำเนินการครอบคลุมทั้งท่าอากาศยานในการกำกับดูแลของ ทอท. ท่าอากาศยานภูมิภาคของ ทย.ด้วย

ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท. เปิดเผยว่า สายการบินทั้ง 9 แห่งที่จะตรวจมาตรฐานเพื่อออกใบอนุญาตใหม่เป็นสายการบินเส้นทางบินระหว่างประเทศ และเส้นทางสำคัญที่มีสัดส่วนเที่ยวบินรวมกันถึงร้อยละ 70 ของไทย ส่วนสายการบินอื่นที่จะมีการตรวจเพื่อออกใบอนุญาตใหม่นั้น จะดำเนินการอย่างเข้มข้นเช่นกัน และหากรายใดไม่ผ่านมาตรฐานจะไม่สามารถกลับมาทำการบินได้อีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย