กองทัพบก 25 ม.ค.-ผบ.ทอ.นั่งหัวโต๊ะประชุมแก้ปัญหาการบินพลเรือน – ICAO เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ปลดธงแดงเดือน มิ.ย.นี้
พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ผบ.ศบปพ.) กล่าวว่า พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะ ผบ.ศบปพ. และประธานกรรมการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ได้เป็นประธานในการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาข้อบกพร่องทางด้าน การบินของคณะกรรมการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน(ศบปพ.) ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยมีผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.)ได้ชี้แจงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO ในโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Audit Programme : USOAP) โดยได้มี การตรวจสอบและประเมินเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Recertification) และจะได้ดำเนินการต่อไปจนครบ 23 สายการบิน รวมทั้งมีการแก้ปัญหาข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยตามที่ ICAO แจ้งมารวม 33 ข้อ และหลังจากนั้นจะได้มีการแจ้งให้ ICAO ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเพื่อนำไปสู่กระบวนการปลดธงแดงต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นประมาณเดือนมิถุนายนนี้
ในอีกส่วนหนึ่งคือ การเตรียมรับการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัย (Universal Security Audit Programme: USAP) ของ ICAO ทาง กพท.ได้รายงานความคืบหน้าในการเตรียมการด้านนี้ว่า ขณะนี้ได้มีการดำเนินการร่าง พ.ร.บ.การบินพลเรือน พ.ศ…….. เพื่อใช้แทน พ.ร.บ.ฉบับปัจจุบัน (พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497แก้ไขปี 2558) รวมทั้งมีการปรับปรุงแผนรักษาความปลอดภัยในการบินพลเรือนแห่งชาติ การจัดเตรียมเอกสารแนะนำทางเทคนิค เครื่องมือ และข้อมูล การรักษาความปลอดภัยที่สำคัญ และการควบคุมคุณภาพการรักษาความปลอดภัยเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมที่ ICAOจะเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยของไทยในเดือนกรกฎาคมนี้ ทั้งนี้จะได้มีการตรวจสอบความพร้อมของโครงการในเบื้องต้นโดย Civil Aviation Authority International (CAAi) ซึ่งเป็นหน่วยงานในการกำกับของกรมการบินพลเรือนสหราชอาณาจักร ที่ได้ว่าจ้างเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและแก้ไขปัญหาการตรวจสอบของ ICAO เพื่อดูความพร้อมก่อนจะให้ ICAO เข้ามาตรวจสอบต่อไป
ผบ.ศบปพ. ได้กล่าวในตอนท้ายว่า การแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งต้องขอขอบคุณ กพท.ที่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และขอให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความร่วมมือ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ ให้ลุล่วงไปโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย
