พีทีทีจีซี รอดูนโยบาย “โดนัลด์ทรัมป์” ก่อนเดินหน้าปิโตรฯ ในสหรัฐ

กรุงเทพฯ 15 พ.ย. – บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (พีทีทีจีซี) ยอมรับโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐอาจชะลอรอดูนโยบายประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ พร้อมเดินหน้าสนองนโยบาย “ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก” ของรัฐบาล ด้วยการลงทุน เบื้องต้น  5 หมื่นล้านบาทในระยอง พร้อมคุยญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมต่อเนื่อง พร้อมสร้างมูลค่าบริหารเงินสด ลงทุนตราสารหนี้ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้ปีหน้าคาดเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 22 จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและโรงงานเดินเครื่องผลิตเต็มที่


นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ซีอีโอ) พีทีทีจีซี  กล่าวว่า โครงการ US Petrochemical Complex ในหสรัฐ เดิมตั้งเป้าหมายจะสรุปโครงการเพื่อเดินหน้าลงทุนไตรมาส 1 /2560 อย่างไรก็ตาม โครงการนี้คงจะต้องชะลอไปก่อนเพื่อรอดูนโยบายที่ชัดเจนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งการลงทุนในประเทศและนโยบายต่างประเทศ ซึ่งโครงการนี้ปัจจุบันมีพันธมิตรหลายรายให้ความสนใจจะเข้าร่วมทุน ผลิตเอทิลีนขนาด 1 ล้านตัน/ปี ใช้วัตถุดิบก๊าซอีเทนจากก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากชั้นหินดินดาน (Shale Gas) โดยโรงงานจะตั้งอยู่ที่รัฐโอไฮโอ สหรัฐ เม็ดเงินลงทุนรวม 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“หากโครงการสหรัฐล่าช้าก็ไม่กระทบอะไรนัก โดยทางบริษัทเน้นการลงทุนในไทยตอบสนองโครงการระเบียงเศรษฐกิจ ด้วยโครงการ Map Ta Phut Retrofit โครงการ PO/Polyols หรือโพลียูรีเทน ครบวงจรที่จะเริ่มลงทุนปีหน้าเงินลงทุน  50,000 ล้านบาท และยังศึกษาสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องชักชวนญี่ปุ่นลงทุน 7 โครงการ  รวมถึง Project MAX ลดต้นทุน สร้างมูลค่าเพิ่มในช่วง 3 ปีนี้ถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” นายสุพัฒนพงษ์  กล่าว


ทั้งนี้ โครงการ Map Ta Phut Retrofit ได้แก่ โครงการ Olefins Reconfiguration (ORP) เป็นโครงการที่นำแนฟทาจากโรงกลั่นของบริษัทมาเป็นวัตถุดิบ (Feedstock) เพื่อผลิตเอทิลีน 500,000 ตัน/ปี โพรพิลีน 261,000 ตัน/ปี จะเริ่มผลิตภายในปี 2563 เพื่อต่อยอดไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมขั้นต่อเนื่อง (Downstream) ในสายการผลิตต่าง ๆ ถือเป็นการเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศ เป็นการสนับสนุนนโยบาย New S-Curve และ EEC หรือระเบียงเศรษฐกิจของภาครัฐ  โดยพีทีทีจีซีลงนามข้อสัญญาเบื้องต้น (Head of Agreement : HOA) กับ บริษัท Kuraray Co., Ltd. และ บริษัท Sumitomo Corporation  เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการผลิตพลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง (Super Engineering Plastics) ประเภท High-Heat Resistant Polyamide-9T (PA9T) กำลังการผลิต 13,000 ตัน/ปี และ Hydrogenated Styrenic Block Copolymer (HSBC) กำลังการผลิต 16,000 ตัน/ปี คาดว่าจะได้ข้อสรุปเพื่อพิจารณาตัดสินใจลงทุนตามข้อตกลงจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายในปี 2560 และเริ่มผลิตได้ภายในปี 2563

นอกจากนี้ พีทีทีจีซี ได้ขยายการลงทุนในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) และ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยตั้งเป้าหมายขายเม็ดพลาสติกในซีแอลเอ็มวี  2 ล้านตันภายใน 5 ปีนี้มูลค่า 100,000 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนร้อยละ 25 จากปัจจุบันมีสัดส่วนร้อยละ 6 หรือ 13,000 ตัน/ปี ซึ่งนับว่าเติบโตอย่างมาก และจะเป็นตลาดรองรับกรณีได้รับผลกระทบจากตลาดในจีน ตั้งเป้าหมายลดยอดขายจากร้อยละ 35-39 เป็นร้อยละ 30 ของตลาดส่งออก  โดยล่าสุดบริษัทได้ลงนาม เอ็มโอยูร่วมกับบริษัท เอส.พี.เพ็ทแพคผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกของไทยลงทุนสร้างโรงงานบรรจุภัณฑ์พลาสติกในประเทศเมียนมาร์

สำหรับปี 2560  บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีนี้ประมาณร้อยละ 20-25 หรือ 400,000 ล้านบาทจากปีนี้ที่มีรายได้ประมาณ  320,000 ล้านบาท เนื่องจากปีหน้าคาดราคาน้ำมันดิบดูไบจะขยับขึ้นจากปีนี้ที่เฉลี่ย 40-50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็น 45-55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และปีหน้ากำลังผลิตโดยรวมจะดีขึ้นกว่าปีนี้ เพราะปีนี้มีการปิดซ่อมใหญ่ทั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมี  ขณะเดียวกันบริษัทมีกระแสเงินสด 42,000 ล้านบาท โดยบอร์ดเห็นชอบให้นำเงิน 10,000  ล้านบาท ไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ 10,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ลงทุนแล้วโดยว่าจ้าง บลจ.ผู้เชี่ยวชาญมาลงทุน 6,000 ล้านบาท และบริษัทบริหารเองกว่า 3,000 ล้านบาท ผลตอบแทนขณะนี้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2 ซึ่งกระแสเงินสดนี้เป็นส่วนที่จะนำไปลงทุนโครงการใหม่ ๆ ในอนาคต


สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2559 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 89,714 ล้านบาท กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 12,210 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6,226 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.40 บาทต่อหุ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 416 จากไตรมาส 3/2558  โดยผลประกอบการงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 236,022 ล้านบาท EBITDA 31,844 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 15,858 ล้านบาท. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]