ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สุพัฒนพงษ์” ยืนยันไม่เคยขอเงินบริจาคจากทางโรงกลั่นแทนการออกกฎหมาย ให้แต่ละโรงกลั่นไปพิจารณาเอง ชี้การขอความร่วมมือเป็นแนวทางดีที่สุด
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึง ความคืบหน้าการหารือขอความร่วมมือนำกำไรจากค่าการกลั่น มาช่วยเหลือในกองทุนน้ำมันว่า ยังรอคำตอบจากโรงกลั่น ซึ่งคณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเจรจากันอยู่ และเชื่อว่ากลุ่มโรงกลั่นคงพิจารณาในทางที่ดี ซึ่งวันนี้ยังประชุมกันอยู่ ส่วนที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ทางโรงกลั่นบอกว่ายังติดขัดเรื่องข้อกฎหมายและจะรวบรวมประเด็นไปสอบถามจากทางกฤษฎีกา พร้อมยืนยันว่าไม่เคยขอบริจาคเงินจากโรงกลั่น แทนการออกกฎหมาย
“ไม่เคยขอใคร เขาจะบริจาคก็บริจาค ไม่เคยเที่ยวไปขอใคร อยากให้เข้าใจ เดี๋ยวไปนึกว่า เราไปบังคับเขา แต่ให้เขาพิจารณาเองว่าจะมารูปแบบไหน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
ส่วนจะให้โรงกลั่นสมัครใจส่งค่ากลั่นอาจเป็นเรื่องยาก และทางโรงกลั่นเองอาจอยากให้มีกฎหมายมาบังคับ เพื่อไม่ให้มีผลกับผู้ถือหุ้นนั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นแบบนั้นได้ แต่ทางโรงกลั่นได้หยิบข้อกฎหมายขึ้นมา จึงต้องสอบถามไปยังกฤษฎีกาก่อน เพราะหากไปบังคับไปผิดข้อกฎหมายก็เป็นสิ่งไม่ดี แต่สัญญาณในขณะนี้ คือ ทางโรงกลั่นก็ยังเจรจากันอยู่ ซึ่งตนเองก็อยากให้ได้คำตอบโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขอความร่วมมือจากทางโรงกลั่น 2-3 เดือนในระยะเฉพาะหน้านั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า โรงกลั่นเป็นบริษัท อย่าไปเรียกขอความเห็นใจ แต่ต้องให้ทางบริษัทไปพิจารณา เพราะบริษัทเหล่านี้อยู่ในดัชนีเพื่อความยั่งยืน เวลาทำธุรกิจไม่ได้ทำเพื่อกำไรสูงสุดอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อธิบายผู้ถือหุ้นได้อยู่แล้ว ถ้าเรื่องใดทำแล้วอยู่ในระดับที่เหมาะสมก็ทำได้อยู่แล้ว และเรื่องนี้เป็นนโยบายแต่ละบริษัท
“เขาต้องพิจารณา เราจะไปเทคแอ็กชัน ให้ไปดูในหลาย ๆ ประเทศ พบว่า การเทคแอ็กชันในสภาพตลาดเสรียากมาก แต่ถามกฎระเบียบเรามีศึกษาอยู่ แต่ความร่วมมือดีที่สุด แม้แต่สหรัฐอเมริกายังต้องเป็นการขอความร่วมมือจากประธานาธิบดีไปยังผู้ประกอบการ แต่ดีที่สุดคือ ความสมัครใจ” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย 453 (212)
