พาณิชย์เชื่อนโยบายทรัมป์ไม่กระทบไทยทางตรงมากนัก

นนทบุรี 6 ก.พ.- ผลการศึกษาผลกระทบภายใต้นโยบาย ของประธานาธิบดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจไทย ยังไม่มีผลกระทบทางตรง และยังเป็นโอกาสในการส่งออกไป ทดแทนตลาดจีนและเม็กซิโกที่มีแนวโน้มถูกกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ ทำให้ยังประเมินการส่งออกทั้งปี ในกรอบร้อยละ 2.5-3.5 ตามเดิม


น.ส.พิมพ์ชนก  วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ผลกระทบภายใต้นโยบาย ของประธานาธิบดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจไทยในเบื้องต้น หลังจากได้ดำเนินการโดยเฉพาะการออกคำสั่งพิเศษแล้ว 8 ฉบับ ภายใน 2 สัปดาห์เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการนั้น ในภาพรวม การค้าระหว่างประเทศของไทย เนื่องจากไทย ไม่ได้เป็นประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าในระดับสูง แต่ไทยเฉลี่ยได้ดุลการค้าปีละ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นอันดับที่ 11 ของประเทศได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ไทยเชื่อว่ายังมีโอกาสส่งออกสินค้าไปทดแทน สินค้าจากจีนและเม็กซิโก  ที่มีแนวโน้มว่าสหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า รวมถึงการที่สหรัฐฯ ถอนตัวจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก หรือ TPP ทำให้ไม่เสียเปรียบคู่แข่งทางการค้าที่สำคัญอย่างเวียดนามและมาเลเซีย  โดยสินค้าที่จะได้รับประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์  เม็ดพลาสติก เหล็ก อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลแช่แข็ง และเชื้อเพลิงและพลังงาน เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการ ควรเตรียมความพร้อม และพิจารณาเข้าไปทำตลาด เร่งใช้ความได้เปรียบก่อนประเทศอื่น


 

นอกจากนี้ สหรัฐ มีโอกาสที่จะทบทวนสถานะประเทศที่ต้องจับตาเป็นพิเศษในเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา PWL ให้ปรับระดับดีขึ้น รวมถึงสิทธิพิเศษทางภาษีศุลากร หรือ GSP กับไทยในปีนี้ ซึ่งมองว่าสหรัฐ จะยังคงพิจารณาตามเกณฑ์ที่เคยใช้ปกติ ทำให้กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจว่า ในระยะสั้น หรือ ในไตรมาสแรก จะไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน โดยยังคงประมาณการส่งออกของไทยในปีนี้ จะปรับตัวดีขึ้น โดยขยายตัวในกรอบร้อยละ 2.5 ถึง 3.5 ตามเดิม

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามผลกระทบทางอ้อมโดยเฉพาะการส่งออกสินค้าที่เป็นวัตถุดิบไปจีน ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การเคลื่อนย้ายเงินทุนออก และมาตรการทางการค้าที่อาจจะมีมาเพิ่มเติม รวมทั้งการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน ซึ่งจะมีผลต่อสินค้าเกษตร  แต่มั่นใจว่าจะได้รับการทบทวนที่ดีขึ้น แต่ผู้ส่งออก ควรติดตามสถานการณ์ และมีความรอบคอบในการลงทุนร่วมทางประกันความเสี่ยงด้านอัตราแรกเปลี่ยนอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 7 เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในภาคเหนือและอีสาน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ.68)

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง