กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก หรือ Local Economy ตามนโยบายของรัฐบาลจะสามารถเริ่มต้นปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษร้อยละ 1 ต่อปี ให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีทั่วประเทศ เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจได้ในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ โดยตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อจังหวัดละ 200 – 300 ล้านบาท ให้กับเอสเอ็มอี ประมาณ 3,000-4,000 ราย ที่ผ่านการคัดสรรมาแล้วจากทางจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการเป็นประธาน ทำงานร่วมกับทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมีอุตสาหกรรมจังหวัดเป็นเลขา เอสเอ็มอีเหล่านี้เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไป และอย่างน้อยต้องทำธุรกิจกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี โอกาสเกิดหนี้เสียจึงค่อนข้างต่ำ
สำหรับวงเงินสินเชื่อสูงสุดรายละไม่เกิน 40 ล้านบาท ต้องเป็นเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาเอสเอ็มอีด้วย จึงจะสามารถยื่นขอได้ การปล่อยสินเชื่อจะดำเนินการโดยธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ซึ่ง กสอ.ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2564 ผลจากการพัฒนาเอสเอ็มอี จะช่วยเพิ่มขนาดจีดีพีเอสเอ็มอีให้ขึ้นไปอยู่ในระดับร้อยละ 50 ของจีดีพีประเทศได้จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 42-43 ของจีดีพีประเทศ.-สำนักข่าวไทย