ฉะเชิงเทรา 16 พ.ย.- ผู้ว่าฯ แปดริ้วผนึกทหาร-ตำรวจ ผุดโมเดลช่วยชาวนาเพิ่มรายได้ช่วงราคาข้าวตก เผย 10 โรงสีเข้าร่วมรับซื้อในราคาเหมาะสมให้ 2 ฝ่ายอยู่ได้แบบเอื้ออาทร
นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พลตรีณรงค์ พฤษารุ่งเรือง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 พลตำรวจตรีธีรพล จินดาหลวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา แถลงที่กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า เกี่ยวกับการดำเนินโครงการฉะเชิงเทราโมเดล ช่วยชาวนาเพิ่มรายได้จากปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ทำให้ชาวนาขายข้าวเปลือกได้ราคาไม่สอดคล้องกับต้นทุน ซึ่งจังหวัดฉะเชิงเทรามีพื้นที่การเพาะปลูก 615,771 ไร่ ผลผลิตประมาณ 354,675 ตัน ซึ่งขณะนี้ได้มีการเก็บเกี่ยวไปแล้วประมาณ ร้อยละ 85 ของพื้นที่เพาะปลูก แต่ยังคงมีผลผลิตออกสู่ตลาดช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2559 ประมาณ 31,241 ตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมจังหวัดและหอมปทุมธานี
นายอนุกูล กล่าวว่า จังหวัดได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการโรงสีช่วยรับซื้อข้าวเปลือกหอมในราคาที่เป็นธรรม นอกจากการเปิดจุดจำหน่ายข้าวของเกษตรกรสู่บริโภคโดยตรง ซึ่งขณะนี้มีโรงสีร่วมช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว 10 แห่ง โดยโรงสีจะกำหนดราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมจังหวัด ความชื้นที่ 25% ราคาตันละ 6,500-7,000 บาท และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ความชื้นที่ 25% ราคาตันละ 5,500-7,000 บาท
พลตรีณรงค์ กล่าวว่า ในส่วนของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดฉะเชิงเทราที่มีอยู่ในทุกอำเภอนั้น จะช่วยกันหาข้อมูลราคารับซื้อข้าวเปลือกของโรงสีแต่ละอำเภอ เพื่อเทียบอิงราคามาตรฐาน หากราคารับซื้อของโรงสีมีความต่างกัน กกล.รส.จังหวัด จะช่วยประสานกับโรงสีในพื้นที่นั้นขอปรับราคารับซื้อให้เท่ากับโรงสีอื่นในจังหวัด หากโรงสีนั้นรับได้ชาวนาก็สามารถนำผลผลิตมาขายได้ แต่ถ้ารับไม่ได้ก็จะประสานโรงสีอื่นที่ให้ราคายุติธรรมมารับซื้อ ซึ่งจะทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น
“ทางโรงสียอมสละค่าดำเนินการบางส่วนลง เพื่อเพิ่มราคารับซื้อข้าวจากชาวนา ทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้นแล้วโรงสีก็อยู่ได้ ทำโดยมีความเอื้ออาทรต่อกัน” พล.ต.ณรงค์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย