ก.ยุติธรรม 8 ก.พ.- ยธ. ไม่ส่ง “สับ วาปี” ขึ้นเบิกความคดีครูจอมทรัพย์ เพราะมั่นใจในพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์
พันตำรวจเอกดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้ รับความเป็นธรรม (ศนธ.ยธ.) กล่าวถึงการขึ้นเบิกความในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ในคดี นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.สกลนคร ที่กำลังขึ้นศาล จ.นครพนมวันนี้ ว่า จนถึงขณะนี้ยังคงมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี โดยมีจะพยานขึ้นเบิกความรวมทั้งสิ้น 10 ปาก แต่จะไม่มี นายสับ วาปี ผู้ที่ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่าเป็นผู้ขับรถชน เนื่องจาก มั่นใจ และมุ่งเน้นไปยังพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ว่ารถของครูจอมทรัพย์ไม่เคยผ่านการชนมาก่อน แม้จะขายใครต่อไปก็ยังสามารถยืนยันได้ว่าไม่เคยมีการชน รวมทั้งป้ายทะเบียน ความสูงขอบบนขอบล่าง ไม่สัมพันธ์กับรถจักรยานที่เกิดเหตุ
สำหรับประเด็นนี้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นว่าครูจอมทรัพย์เป็นคนขับรถ คือถ้าพิสูจน์ได้ว่า รถครูจอมทรัพย์ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ก็ค่อนข้างเชื่อได้ว่าน่าจะมีน้ำหนักทำให้ครูจอมทรัพย์หลุดพ้นจากมลทินได้
สำหรับ กรณีของนายสับ จากที่ทีมงานของยธ. ไปตรวจสอบการทำคดีนี้ พบว่า การทำคดีได้ข้ามไป 2 ขั้นตอนสำคัญ คือ 1.ไม่ได้การนำนายสับเข้าเครื่องจับเท็จ และ 2.ให้ผู้เสียหายคือญาติผู้เสียชีวิต ฟ้องร้องคดีอาญากับนายสับ ในกรณีเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตายและหลบหนี ซึ่งตามขั้นตอนที่ถูกต้องจะต้องรอให้ศาลตัดสินให้เสร็จสิ้นก่อนว่านายสับเป็นผู้กระทำผิด จึงจะมีการยื่นรื้อฟื้นคดี ดังนั้นมองเห็นแล้วว่าถ้าในอนาคตมีกรณีที่เหมือนกับนายสับทุกอย่าง และมารับสารภาพรับผิดภายหลัง มีการเจรจาจ่ายค่าเสียหายแก่ญาติผู้ตาย จะทำให้กระบวนการยุติธรรมสับสนและไขว้เขว้ได้ โดยการรื้อฟื้นคดีครั้งนี้ น่าจะเป็นมาตรฐานในการรื้อฟื้นคดีต่อไปในอนาคตได้
อย่างไรก็ตามหากในเรื่องนี้ ศาลตัดสินว่าครูจอมทรัพย์ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด ในส่วนของ ยธ. คงไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะมาตัดสินว่าผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ผิดหรือไม่ ขอให้เป็นหน้าที่ของผู้รักษากฏหมาย อย่าง ตำรวจ เป็นคนนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย