ทำเนียบฯ 8 ก.พ.-ทีมโฆษกกระทรวงกลาโหม เผยผลประชุม กก.ขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน เตรียมออกบัตร E-work Permit แก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย เชื่อช่วยปลดล็อคปัญหาการค้ามนุษย์และการทำประมงผิดกฎหมายได้ พร้อมมั่นใจไทยปลดล็อคปัญหาการบินพลเรือนได้ภายในปีนี้
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ในที่ประชุมได้มีความคืบหน้าการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ ซึ่งขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวในไทย 2.63 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดต้องผ่านการตรวจสอบสัญชาติ จึงจะได้รับในอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย โดยเบื้องต้นตรวจสอบไปแล้ว 1.29 ล้านคน ส่วนอีก 1.34 ล้านคน ยังรอการพิสูจน์สัญชาติ แบ่งเป็น แรงงานประมงและแรงงานทั่วไป ซึ่งแรงงานประมง 1.46 แสนคน จะสิ้นสุดการผ่อนผันในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 และต้องกลับประเทศภายใน 15 วัน โดยไม่ถือเป็นความผิด ทั้งนี้ แรงงานที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว จะสามารถอยู่ในไทยได้ถึง 8 ปี ตั้งแต่ปี 2557-2565 ซึ่งตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม จะมีการผลิตบัตรอนุญาต E-work Permit ให้แรงงานต่างด้าว และอนาคตจะทำระบบ application เพื่อให้สามารถพิสูจน์สัญชาติได้ทางระบบออนไลน์ และจากนั้นจะมีการจัดระเบียบโซนนิ่งที่อยู่อาศัย โดยเบื้องต้นจะนำร่องที่ จ.สมุทรสาคร และ จ.ระนอง โดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงานไปพิจารณาร่วมกัน ส่วนอีก 13 จังหวัด จะจัดระเบียบตามมา
พล.ต.คงชีพ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การจัดระเบียบโซนนิ่งนั้น หากแรงงานพักอาศัยในสถานประกอบการอยู่แล้ว ผู้ประกอบการจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบดูแล แต่หากแรงงานพักอาศัยนอกสถานที่ รัฐบาลจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบจัดหาสถานที่ให้ อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ หากทำได้ตามมาตรฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เชื่อว่าจะสามารถปลดล็อคการกีดกันสินค้าของไทย รวมถึงปัญหาการค้ามนุษย์ การประมงผิดกฎหมาย และปัญหาด้านความมั่นคง โดยตั้งเป้าในปี 2565 จะไม่มีแรงงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในไทย
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวด้วยว่า ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายนั้น พล.อ.ประวิตร กำชับว่าทางสหภาพยุโรป (EU) ยังกังวลเรื่องการแก้ไขกฎหมายของไทยที่เกี่ยวข้องกับการประมง ซึ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้เป็นมาตรฐานสากล โดยเสร็จไปแล้ว 90 ฉบับ เหลืออีกเพียง 1 ฉบับเท่านั้น นอกจากนี้จะเร่งให้เรือประมงทุกลำติดระบบติดตามเรือประมง (VMS) เพื่อการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า ขณะที่การแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนนั้น ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ไทยจะสรุปรายงานการแก้ปัญหาทั้งหมดให้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งคาดว่า ICAO จะมาตรวจสอบในเดือนกันยายนนี้ จึงมีความเป็นไปได้ว่าไทยจะปลดธงแดงได้ภายในปีนี้ แต่ในเดือนกรกฎาคม ไทยต้องเตรียมรับการตรวจสอบเรื่องการรักษาความปลอดภัย 8 ประเด็น อาทิ ร่างกฎหมายการบินพลเรือน หน่วยงานที่มีอำนาจรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือน คุณสมบัติของบุคลากรที่ต้องอบรมร่วมกับ ICAO และการตรวจสอบความปลอดภัยของสนามบิน นอกจากนี้เรื่องของสายการบินไทยที่จะบินเข้าสหรัฐอเมริกา ก็จะทำให้ผ่านมาตรฐานของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) ได้ภายในปีนี้
ด้าน ร.ต.หญิง พรชนก อ่ำพันธุ์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแก้ปัญหาอุบัติเหตุรถตู้สาธารณะ ว่า ในที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องดังกล่าว โดยจะมีการบังคับใช้กฎหมายสูงสุด ด้วยการถอนใบอนุญาต โดยจะพิจารณาให้เสร็จก่อนเทศกาลสงกรานต์นี้ ทั้งนี้รถตู้ทุกคันต้องผ่านจุดตรวจสอบก่อนจึงจะออกให้บริการได้ ที่สำคัญต้องติด GPS ให้เสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อเป็นระบบข้อมูลออนไลน์ในการตรวจสอบรายชื่อผู้เดินทาง การจับความเร็วของผู้ขับขี่ ทั้งนี้ผู้ขับขี่ต้องร่วมรับผิดชอบกับผู้ประกอบการในกรณีมีอุบัติเหตุด้วย และผู้ประกอบการรายย่อยให้ไปรวมกลุ่มกันมาเป็นนิติบุคคลด้วย.-สำนักข่าวไทย