เชียงใหม่ 16 พ.ย. – บนดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ เคยมีสภาพเป็นดอยหัวโล้นและเต็มไปด้วยไร่ฝิ่น จนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ไปที่นั่น และให้ตั้งโครงการหลวงเป็นแห่งแรก ช่วยพลิกฟื้นชีวิตผู้คนบนดอยแห่งนี้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และพวกเขาพร้อมจะสืบสานพระราชปณิธานตามรอยเท้าพ่อด้วยความพอเพียง
ดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน มีสภาพเป็นดอยหัวโล้น แทบจะไม่มีต้นไม้ใหญ่ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ไปที่นั่นยังเต็มไปด้วยไร่ฝิ่น และใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 1,500 บาท ซื้อที่ดินจากชาวบ้านแถบนั้นและตั้งโครงการหลวงอ่างขางขึ้นเป็นแห่งแรก
47 ปีผ่านไป ดอยอ่างขางในวันนี้มีผืนป่าล้อมรอบพร้อมกับพืชผักผลไม้เมืองหนาวมากมาย ที่วิจัยและส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขา 4 ชนเผ่า 9 หมู่บ้าน ได้ปลูกทดแทนฝิ่น และยังวิจัยให้ได้พันธุ์ไม้ผลที่ดีที่สุดต่อไป
ต้นบ๊วยกลุ่มแรกของอ่างขางที่ปลูกไว้ตั้งแต่ปี 2517 ยังคงอยู่ และกลายเป็นต้นบ๊วยโบราณ ซึ่งเป็นไม้ผลกลุ่มแรกๆ ที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านที่นี่ปลูก เช่นเดียวกับสตรอว์เบอร์รี พืชชนิดแรกๆ ที่สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน
ลุงวิรัก เพาะขยายพันธุ์สตรอว์เบอร์รีโครงการหลวงมาเกือบ 40 ปี บอกว่าเริ่มทำมาตั้งแต่พันธุ์พระราชทาน 13 และพัฒนามาถึง 8 รุ่น จนถึงพันธุ์พระราชทาน 88 ที่อยู่ระหว่างขยายพันธุ์ เพื่อให้ได้สตรอว์เบอร์รีที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อส่งเสริมชาวบ้าน เป็นการสืบสานพระราชปณิธานพระองค์ท่าน ยังไม่รวมพืชผักผลไม้อีกมากมาย ที่ชาวไทยภูเขาบนดอยอ่างขางได้ปลูกขายจากรุ่นสู่รุ่น จนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ชาวไทยภูเขาที่นี่ล้วนแล้วแต่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และพร้อมจะเดินตามรอยพ่อด้วยความพอเพียง
สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานให้กับชาวไทยภูเขาตามดอยสูง นอกจากการพัฒนาคุณภาพชีวิตพวกเขาให้ดีขึ้นแล้ว ยังพระราชทานแนวทางการดำเนินชีวิตด้วยความพอเพียง ซึ่งพสกนิกรไทยสามารถนำไปปรับใช้และเดินตามรอยเท้าพ่อได้ทุกคน. – สำนักข่าวไทย