นครพนม 8 ก.พ. – ศาลนัดสืบพยานเพื่อพิจารณารื้อคดี “ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร” วันนี้ดำเนินการในฝ่ายผู้ร้อง คือฝั่งของครูจอมทรัพย์ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมกลับลำมุ่งเน้นประเด็นการตรวจสอบสภาพรถของกลาง แทนพยานบุคคลอย่างนายสับ วาปี ที่อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริง การสืบพยานวันนี้ ได้ดำเนินการไปแล้ว 6 ปาก
หนึ่งในพยานหลักฐานใหม่ที่นำมาสู่การยื่นคำร้องขอให้รื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ชาวสกลนคร ซึ่งตกเป็นจำเลยคดีขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548 คือนายสับ วาปี ที่ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริง จนเป็นที่จับตาของทุกฝ่ายตลอดมา กระทั่งวันสืบพยานฝ่ายร้องในวันนี้ที่ศาลจังหวัดนครพนม ปรากฏว่านายสับ เพียงมาปรากฏตัวให้เห็น แต่กลับไม่อยู่ 1 ใน 9 พยานบุคคลที่ฝ่ายร้องนำมาเบิกความต่อศาล
หัวหน้าคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีครูจอมทรัพย์ขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ กระทรวงยุติธรรม เบิกความเป็นพยานต่อศาลว่า ตามหลักฐานของตำรวจวิทยาการจังหวัดนครพนม ระบุจุดกระทบรถคู่กรณีอยู่บริเวณกระจังหน้ารถและพบร่องรอยการแลกสีเขียวติดอยู่ที่รถจักรยานผู้ตาย 3 จุด
จากการวิเคราะห์ของพยานพบว่า จุดที่ 1 และ 2 เท่ากับความกว้างของป้ายทะเบียนรถ แต่ผลการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่กลับไม่พบร่องรอยการเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้ารถ ขณะที่ป้ายทะเบียนก็อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ขัดแย้งลักษณะการเกิดเหตุในคำฟ้องที่ระบุว่า รถยนต์ขับมาด้วยความเร็วสูง จึงมุ่งไปที่การตรวจสอบสภาพรถ ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมการขนส่งทางบก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ ตรวจสอบ ได้ผลตามที่พยานตั้งข้อสังเกต จึงเชื่อว่ารถคันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคดี แต่อัยการโจทย์ก็ซักค้านว่าเป็นพยานหลักฐานเดิมที่ผ่านการพิจารณาของศาลมาแล้ว ส่วนกรณีรถยนต์ บค 56 มุกดาหารของนายสับ พยานระบุว่าได้ตัดประเด็นทิ้ง เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะสืบสวนหาข้อเท็จจริง
ขณะที่ผู้ร่วมสังเกตการณ์จากศูนย์รับเรื่องร้องเรียนผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม ยังคงมั่นใจในพยานหลักฐานของผู้ร้อง
สำหรับภาพรวมการสืบพยานฝ่ายร้องวันนี้ มีทั้งหมด 6 ปาก ได้แก่ ครูจอมทรัพย์ นายประพัฒน์ แสนเมืองโคตร ผู้ครอบครองรถของกลางคนปัจจุบัน พนักงานสอบสวนกระทรวงยุติธรรม ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบรถยนต์จากบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และกรมการขนส่งทางบก ส่วนประจักษ์พยาน 2 ปากที่เห็นอุบัติเหตุจะมีการนำสืบต่อในวันพรุ่งนี้. – สำนักข่าวไทย