ตร.ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขทรัพย์สินไซซะนะและเครือข่ายได้

กทม.10 ก.พ.- โฆษก บช.ปส.รับ จนขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขหรือทรัพย์สินหลังการจับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพาและเครือข่ายได้ เหตุต้องรอข้อมูลทั้งหน่วยงานในไทยและ สปป.ลาว

พลตำรวจตรีสุนทร เฉลิมเกียรติ ผู้บังคับการ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. ในฐานะโฆษก บช.ปส. เปิดเผยความคืบหน้าการขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดนายไซซะนะ แก้วพิมพา ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลข หรือจำนวนทรัพย์สินทั้งหมดได้ เพราะต้องรอข้อมูลจากหลายหน่วยงานทั้งในไทยและ สปป.ลาว อีกทั้งยังมีทรัพย์สินอีกจำนวนมากที่ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ ส่วนกระแสข่าวในโซเชียล สปป.ลาว ต้องการให้ส่งตัวนายไซซะนะ กลับนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องส่งตัวกลับ เพราะนายไซซะนะ กระทำผิดในไทย ตำรวจมีอำนาจในการดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงข่าวนายสีสุก ดาวเฮือง หรือเสี่ยเตื้อง โพสต์เฟสบุ๊ค ชี้แจงความสัมพันธ์กับนายไซซะนะว่า เป็นเพื่อนกันจริงแต่ไม่รู้เรื่องค้ายาเสพติด เป็นสิทธิ์ที่จะชี้แจงได้ แต่ในทางการสืบสวนตำรวจ ปส. มีข้อมูลเบื้องต้นน่าสงสัยว่าทั้ง 2 คนอาจมีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องค้ายาเสพติด หรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ส่วนการตรวจสอบรถแลมโบกีนี ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง คืบหน้าไปมาก แต่การพิสูจน์ทราบเรื่องทะเบียนรถ กจ 51 กรุงเทพมหานคร ยังต้องรอข้อมูลจากหลายหน่วยที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นมีการอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเบนซ์ เรซซิ่ง 2 รายการ คือ แลมโบกีนี และบิ๊กไบค์ ยี่ห้อเคทีเอ็ม เพราะเบนซ์ เรซซิ่ง มีชื่อเป็นผู้ครอบครอง นอกจากนี้ ยังมีการกวาดล้างยาเสพติด ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 เข้าจับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ได้พร้อมของกลางจำนวนมาก ที่สุวินทวงศ์ 44 เมื่อคืนที่ผ่านมา(9 ก.พ.) เบื้องต้นเป็นกลุ่มรับจ้างขนยาเสพติด อยู่ระหว่างขยายผลว่า เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดนายไซซะนะหรือไม่ ซึ่งตำรวจท้องที่ได้ส่งรายละเอียดสำนวนคดีให้ ตำรวจ ปส.เพื่อขยายผลผู้ร่วมเครือข่ายต่อแล้ว