กรุงเทพฯ 16 ก.พ. – นายบิล สโตน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เปิดเผยผลประกอบการด้านการเงินและการดำเนินงานของบริษัทฯ ไตรมาส 4/2559 และปี 2559 ว่า ไตรมาส 4/2559 SPRC มีกำไรสุทธิ 79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,810 ล้านบาท โดยเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2559 มีกำไรสุทธิ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,172 ล้านบาท และไตรมาส 4/2558 มีกำไรสุทธิ 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,846 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2559 SPRC มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปกับน้ำมันดิบที่สูงขึ้นและกำไรจากสตอกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2559
ขณะที่ปี 2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 245 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8,688 ล้านบาท โดยมีค่าการกลั่นตลาด 6.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยค่าการกลั่นเมื่อรวมกับกำไรจากสตอกน้ำมันเท่ากับ 7.93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับปี 2558 เท่ากับ 8.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และปี 2559 และ 2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 245 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วง 3.5 ปีที่ผ่านมา SPRC ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยโดยไม่มีการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานสูงถึง 12.9 ล้านชั่วโมง เช่นเดียวกับผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมด้านความเชื่อถือได้ (reliability) อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมัน (utilization) และยังคงสามารถเพิ่มผลกำไรผ่านโครงการปรับปรุงผลกำไร (Bottom Line Improvement Program)
ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติให้เสนอจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นจากกำไรสุทธิปี 2559 หลังจากการจัดสรรสำรองตามกฎหมายอัตรา 1.1824 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2560 พิจารณาอนุมัติวันที่ 5 เมษายน 2560 เงินปันผล 1.1824 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราเงินปันผลต่อกำไรร้อยละ 60 สอดคล้องกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทที่จ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากครึ่งแรกของปี 2559 จำนวน 0.5378 บาทต่อหุ้นแล้ว คงเหลือเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายสำหรับผลประกอบการประจำปี 2560 อีกอัตราหุ้นละ 0.6446 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลวันที่ 19 เมษายน 2560 วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 วันที่ 20 เมษายน 2560 กำหนดการจ่ายเงินปันผลอัตรา 0.6446 บาทต่อหุ้น วันที่ 3 พฤษภาคม 2560 หลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2560.-สำนักข่าวไทย