SPRC งดจ่ายปันผลปี 66 เหตุขาดทุน

กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – SPRC งดจ่ายปันผลปี 66 เหตุขาดทุนสุทธิ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขาดทุนสตอกผลพวงขัดแย้งตะวันออกกลางและเศรษฐกิจจีน


นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เปิดเผย ในปี 2566 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 222 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับค่าการกลั่นตลาดซึ่งไม่รวมผลกำไร/ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันในปี 2566 อยู่ที่ 4.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งลดลงจากปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 9.64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4/2566 โดยบริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลกำไรสุทธิ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน ส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปต่อน้ำมันดิบที่ลดลง และการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยการผลิตของโรงกลั่น ราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นผลมาจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางและทะเลแดง ประกอบกับความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศจีน ส่งผลให้เกิดการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันในไตรมาสนี้ ค่าการกลั่นตลาดอยู่ที่ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ 8.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปต่อน้ำมันดิบที่ลดลงและการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยการผลิตในช่วงเดือนตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน ในวันเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2567 มีมติงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เนื่องจากบริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ


นายโรเบิร์ต โดบริคกล่าวว่า ปี 2566 นับว่าเป็นที่ท้าทายสำหรับ SPRC แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความน่าเชื่อถือในการผลิต โดยสร้างมูลค่าผ่านการเข้าซื้อธุรกิจการตลาดและน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมทั้งแสวงหาโอกาสเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านห่วงโซ่คุณค่าเชิงกลยุทธ์ของบริษัท –511.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย