กรมธนารักษ์ 23 ก.พ. – กรมธนารักษ์เปิดแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 2 โอกาสสุดท้ายในรัชกาลที่ 9 วันที่ 1 มีนาคม นี้
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 2 วาระ และเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 2 โอกาสสุดท้าย ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี การสหกรณ์ไทย โดยจัดทำเป็นเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา โดยมีลวดลาย ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ผินพระพักตร์ทางเบื้องซ้าย ทรงฉลองพระองค์ชุดสากล ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปเกลียวเชือกล้อมด้วยเส้นวงกลม ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “ครบ 100 ปี การสหกรณ์ไทย 26 กุมภาพันธ์ 2559” เบื้องล่างมีข้อความบอกราคาว่า “20 บาท” และข้อความว่า“ประเทศไทย” โดยมีลายไทยประดิษฐ์คั่นระหว่างข้อความเบื้องบนกับเบื้องล่างทั้งสองข้าง
และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ASEAN Economic Community : AEC โดยจัดทำเป็นเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา โดยมีลวดลาย ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผินพระพักตร์ทางเบื้องขวา ทรงฉลองพระองค์ชุดสากล ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” โดยมีลายช่อกระหนกเปลวอยู่ด้านหน้าและหลังของข้อความ
ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์อาเซียน ด้านขวาตราสัญลักษณ์มีข้อความบอกราคาว่า “20 บาท” ด้านซ้ายมีข้อความว่า “20 BAHT” ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “การเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” และข้อความว่า “ASEAN Economic Community : AEC” เบื้องล่างมีข้อความว่า “31 December 2015 THAILAND” และข้อความว่า “31 ธันวาคม 2558 ประเทศไทย”
โดยกรมธนารักษ์ได้เตรียมเหรียญเพื่อจะจัดจ่ายให้กับประชาชนจำนวน 150,000 ชุด ๆ ละ 5 เหรียญ ประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก AEC จำนวน 2 เหรียญ // เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี การสหกรณ์ไทย จำนวน 2 เหรียญ // เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 50 ปี ฝนหลวงพระราชทาน จำนวน 1 เหรียญ
สำหรับจำนวนเหรียญที่ได้รับการจัดสรรในแต่ละภูมิภาคขึ้นอยู่กับจำนวนของประชากรในแต่ละจังหวัด โดยในกรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดสรร จำนวน 60,000 ชุด ส่วนต่างจังหวัด จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรมากที่สุด คือ นครราชสีมา จำนวน 4,053 ชุด รองลงมา คือ อุบลราชธานี จำนวน 2,856 ชุด และขอนแก่น จำนวน 2,772 ชุด ส่วนจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรน้อยที่สุด คือ ระนอง จำนวน 269 ชุด ซึ่งเปิดให้ประชาชนแลกเหรียญได้ 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์ และต้องนำบัตรประชาชนมาแสดงตัวด้วย
นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวต่อว่า ผู้ที่ประสงค์จะขอแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกทั้ง 2 วาระ สามารถขอแลกได้ตั้งแต่วันที่ 1 , 2 , 3 , 6 และ 7 มีนาคมนี้ (5 วันทำการ) ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 18.00 น. โดยจะไม่มีการหยุดพักระหว่างวัน ซึ่งสามารถแลกเหรียญได้ที่ ส่วนกลาง หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ สำนักบริหารเงินตรา ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพฯ หน่วยจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯหน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ สำนักบริหารเงินตรา ถนนพหลโยธิน จังหวัดปทุมธานี ส่วนภูมิภาค
สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ 76 พื้นที่ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งอธิบดีกรมธนารักษ์คาดว่า หลังจากเปิดจ่ายแลกเหรียญจะหมดภายในสองวัน
ขณะที่ ความคืบหน้าผลิตเหรียญถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จประปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น ขณะนี้มีรูปแบบแล้ว โดยคาดว่าประมาณเดือน มี.ค. น่าจะทำเหรียญต้นแบบเสร็จ ซึ่งด้านหน้าจะเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ ส่วนด้านหลังจะเป็นรูปพระเมรุ ซึ่งจะเป็นเหรียญนิกเกิล-ทองแดง โดยจะมีการเปิดให้สั่งจองต่อไป
ส่วนเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนรุ่นใหม่ รวมถึงเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในโอกาสขึ้นครองราชย์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 นั้น ยังอยู่ระหว่างการสรุปแบบ – สำนักข่าวไทย