นนทบุรี 26 ก.พ. – กระทรวงพาณิชย์เผย 4 กลยุทธ์พาข้าวไทยกลับมาครองแชมป์ตลาดฮ่องกง ชี้กลเม็ดวิธีการขายเชิงวิเคราะห์ ตั้งเป้าส่งออกปีนี้ 200,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 6.4
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการวิเคราะห์ตลาดและแนวทางรุกตลาดฮ่องกงของสินค้าข้าวจากประเทศไทย ว่า จากการที่ข้าวไทยเคยสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดฮ่องกงให้กับคู่แข่ง สัดส่วนข้าวไทยในช่วงเวลานั้นลดลงต่อเนื่อง สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ เมืองฮ่องกงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงพาณิชย์ จึงร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร และใช้โอกาสนี้เป็นกรณีศึกษา เพื่อให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศอีกเกือบ 60 แห่งใช้เป็นตัวอย่างและแนวทางในการดำเนินมาตรการเชิงรุกในสินค้าบริการของไทย
“สคต.ฮ่องกงเริ่มต้นด้วยการศึกษาถึงสาเหตุของปัญหา วางแนวทางดำเนินการ และตั้งเป้าหมายผลที่จะได้รับ โดยสรุป 4 กลยุทธ์หลัก คือ 1.การผูกใจมิตรแท้ 2.การชี้จุดเด่นของข้าวไทย 3.การเชิญคณะผู้นำเข้า และ 4.การเร่งจัดกิจกรรมตลาด ส่งผลให้เกิดความสำเร็จตามที่คาดไว้ มีคำสั่งซื้อและส่วนแบ่งการตลาดของข้าวไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี คือ ปี 2557 ข้าวไทยมีสัดส่วนเชิงมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 54ปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 60 และปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 64.2 ซึ่งปี 2560 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวไปฮ่องกงเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 6.4 ทำให้สัดส่วนเชิงมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 และสัดส่วนเชิงปริมาณจะเพิ่มเป็นร้อยละ 64” นางมาลี กล่าว
นายวิทยากร มณีเนตร ผู้อำนวยการ สคต.ฮ่องกง กล่าวว่า จากการศึกษาปัญหาอย่างรอบด้าน จึงเริ่มกลยุทธ์ “การผูกใจมิตรแท้” ด้วยการรื้อฟื้นความสัมพันธ์อันดีที่มีมากว่า 50 ปีของไทยและฮ่องกง การประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคชาวฮ่องกงตระหนักถึงคุณค่าของข้าวไทย การดึงกลุ่มผู้นำเข้ารายใหม่ และการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติผู้นำเข้ารายเดิมที่ทำธุรกิจกับไทยต่อเนื่องแม้ในยามที่ต้องเผชิญปัญหาราคาข้าวสูงขึ้น แสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่จะส่งเสริมการส่งออกข้าวไทยในตลาดฮ่องกง
สำหรับกลยุทธ์ “การชี้จุดเด่นของข้าวไทย” ปี 2555 – 2557 เมื่อข้าวไทยมีราคาสูงขึ้น ทำให้เกิดการนำเข้าข้าวจากประเทศคู่แข่งที่มีราคาต่ำกว่ามาจำหน่าย สคต. ฮ่องกงจึงเข้าพบผู้ประกอบการซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ และสมาคมผู้นำเข้าข้าวของฮ่องกง เพื่อชี้แจงถึงความโดดเด่นของคุณภาพข้าวไทยและลักษณะของบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่าง ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้บริโภคในการสังเกตลักษณะของข้าวไทยและบรรจุภัณฑ์ที่ถูกต้อง เป็นต้น
กลยุทธ์ที่ 3 “การเชิญคณะผู้นำเข้า” สคต.ฮ่องกงร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำคณะผู้แทนการค้าสินค้าข้าวตัวจริงจากฮ่องกง เดินทางมาเจรจาการค้ากับผู้ส่งออกข้าวไทย รวมทั้งเยี่ยมชมแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าว และขั้นตอนการบรรจุข้าวที่ทันสมัย โดยได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (2557 – 2559) ซึ่งนอกจากจะเกิดคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าฮ่องกงเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นโอกาสการแนะนำข้าวชนิดอื่น ๆ ของไทย อาทิ ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวกล้อง ข้าวออร์แกนิก และผลิตภัณฑ์จากข้าวต่าง ๆ อีกด้วย
กลยุทธ์สุดท้าย “การเร่งจัดกิจกรรมตลาด” สคต.ดำเนินกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การจัดกิจกรรมร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ การสาธิตการปรุงอาหารไทยร่วมกับร้านอาหารและโรงแรมที่มีชื่อเสียง การร่วมกิจกรรมของสมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง และการเชิญคณะผู้แทนการค้าพร้อมด้วยสื่อมวลชนเยือนงาน Thaifex – World of Food Asia เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย