กทม. 6 มี.ค. – ครั้งที่ 3 แล้วสำหรับความพยายามของ กทม. ในการดำเนินการเข้ารื้อย้ายบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างภายในชุมชนป้อมมหากาฬ หลังเจ้าของบ้านยินยอม ปฏิบัติการรอบนี้ไร้เหตุวุ่นวาย ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนยอมรับเป็นเพียงผู้อยู่อาศัย ไม่ย้ายออกเพราะไม่มีที่ไป
ชาวชุมชมป้อมมหากาฬรายนี้เล่าว่า อยู่ที่นี่มานานกว่า 50 ปี เป็นเพียงผู้อยู่อาศัย ไม่ใช่เจ้าของบ้านเลขที่ 127/1 จ่ายค่าเช่ามากว่า 10 ปี หลัง กทม.เข้ารื้อถอนครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่าน เจ้าของบ้านก็โอนกรรมสิทธิ์ให้กับ กทม.ทันทียอมรับไม่มีที่ไป
ปฏิบัติการรื้อย้ายบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างภายในชุมชนป้อมมหากาฬครั้งที่ 3 แม้จะราบรื่น ไร้เหตุปะทะ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีชาวชาวบ้านบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย ทำได้เพียงเฝ้าสังเกตการณ์ อยู่หลังราวเหล็ก
การรื้อถอนบ้านเลขที่ 95 เป็นไปด้วยความระมัดระวัง เจ้าหน้าที่นำสแลนมาขึงกั้นบ้านเลขที่ 97 บ้านไม้โบราณ 1 ใน 24 หลัง ที่สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอต่อรัฐให้ขึ้นเป็นมรดกสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่สร้างด้วยไม้ ระหว่างนั้นทุกฝ่ายมีมติร่วมกัน นัดหารือวันที่ 8 มี.ค.นี้ ตั้งคณะกรรมการชุดเล็กจากตัวแทน 3 ฝ่าย คือ กทม. ทหาร แกนนำชุมชน เพื่อกำหนดแนวทางพัฒนาที่ชัดเจน เหมาะสม โดยชาวป้อมมหากาฬยังยึดแนวคิดพิพิธภัณฑ์มีชีวิต
ภายในชุมชนป้อมมหากาฬยังมีบ้านที่ไม่ได้รื้อถอนอีก 36 หลัง จากทั้งหมด 42 หลัง กทม.ยังเดินหน้ารื้อถอน พร้อมกับจัดทำแผนแม่บทการอนุรักษ์พื้นที่ป้อมมหากาฬ เพื่อพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ และอนุรักษ์โบราณสถาน ซึ่งเป็นไปตามมติของพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินบริเวณป้อมมหากาฬ ปี 2535 .- สำนักข่าวไทย