เตือนผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อม

กทม.7 มี.ค.-แพทย์เตือนผู้สูงวัยเสี่ยงจอประสาทตาเสื่อม สัญญาณเตือนตามัวลง เห็นภาพบิดเบี้ยว เส้นตรงเป็นคด ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด ป้องกันได้โดยหมั่นตรวจสุขภาพตา งดสูบบุหรี่ ทานอาหารมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ 


 

นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จอประสาทตาเสื่อมเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมในส่วนกลางของจอประสาทตาซึ่งจะเกิดเมื่อมีอายุมากขึ้น และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความสามารถในการมองเห็นของผู้สูงอายุลดลง โรคนี้มักพบในผู้มีอายุ 50ปีขึ้นไปจึงมักเรียกว่าจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากอายุ แต่จอประสาทตาเสื่อมอาจจะพบได้ในผู้ที่มีอายุน้อยซึ่งมักพบในผู้มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคนี้ อาการของโรคจอประสาทตาเสื่อม คือมองเห็นภาพบิดเบี้ยว มองเห็นเส้นตรงเป็นเส้นคด มองไม่เห็นส่วนกลางของภาพ การมองภาพต้องใช้แสงเพิ่มมากขึ้น และการมองเห็นสีลดลง


 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมคืออายุจะพบมากในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี พันธุกรรม ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยจะมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมาก่อน พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายและพบมากในผู้ที่สูบบุหรี่ โดยจะมีโอกาสเป็นโรคนี้เร็วกว่าผู้ที่ไม่สูบถึง 10 ปี จอประสาทตาเสื่อมมี 2 ชนิด คือ แบบที่ 1 แบบแห้งหรือแบบเสื่อมช้า เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุด โดยเซลล์จอประสาทตาจะค่อยๆ เสื่อมไปอย่างช้าๆ การมองเห็นจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น แบบที่ 2 แบบเปียกหรือแบบเร็ว พบร้อยละ 10-15 ของโรคจอประสาทตาเสื่อม โดยจะเกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็วทันที เป็นผลจากจุดกลางรับภาพจอประสาทตาบวม และ/หรือมีเลือดออกที่จอประสาทตา

ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่สามารถหยุดหรือชะลอ เพื่อให้จอประสาทตาเสื่อมช้าที่สุด  โดยมีวิธีรักษา ได้แก่ การฉีดยา การใช้เลเซอร์พลังงานต่ำและสารไวแสง เลเซอร์พลังงานสูง และหลายวิธีร่วมกัน  ซึ่งการรักษาในแต่ละวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน เพราะร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคนตอบสนองต่างกัน  ดังนั้น  ก่อนการรักษาจักษุแพทย์  ผู้ป่วย  ญาติ ควรพูดคุยกันเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุด


 

รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวอีกว่าโรคจอประสาทตาเสื่อมแม้ไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่สามารถป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อมได้โดย หมั่นตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ โดยเฉพาะในผู้มีอายุมากกว่า 50 ปี หรือมีประวัติบุคคลในครอบครัวมีภาวะจอประสาทตาเสื่อม งดสูบบุหรี่  เลือกรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ผักใบเขียว และผลไม้  เป็นต้น จะสามารถป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อมได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก