กรุงเทพฯ 7 มี.ค.- ผบช.น.คาดโทษหากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลยให้มีแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบสั่งย้ายผู้กำกับเข้ากรุทันที ขณะที่ผลกวาดล้างช่วงวันที่ 3 – 7 มี.ค. จับกุมผู้กระทำผิดได้ 103 คน ยึดเงินสดได้กว่าแสนบาทและของกลางอีกจำนวนมาก
พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการระดมกวาดล้างปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบระหว่างวันที่ 3-7 มีนาคม 2560 โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 103 คน ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้หลายรายเป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวอินเดีย พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสดรวม 120,000 บาท และอื่นๆ อีกหลายรายการ อาทิ สมุดบัญชีเงินฝาก/บัตรเอทีเอ็ม /และบัญชีรายชื่อลูกค้า โดยผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในฐานผิดพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 พระราชบัญญัติการทวงถาหนี้ พ.ศ. 2558
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าการปราบปรามแหล่งเงินกู้เจ้าหนี้นอกระบบเป็นนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเนื่องจากปัญหาดังกล่าวกระทบต่อเศรษฐกิจรากหญ้าของประเทศ อีกทั้งเจ้าหนี้นอกระบบเหล่านี้มักมีพฤติกรรมในการให้กู้และเก็บดอกเบี้ยจากผู้หาเช้ากินค่ำในอัตราที่สูงเกินกำหนด ถึง ร้อยละ 15 ถึง ร้อยละ20 ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน จากนี้คาดโทษทุกพื้นที่ต้องระดมกวาดล้างต่อเนื่อง หากยังพบปัญหา หรือปล่อยปละละเลยจะมีการพิจารณาย้ายผู้กำกับการสถานี มาประจำ
ทั้งนี้ยังกล่าวถึงผู้ปล่อยเงินกู้รายใหญ่ใน กทม.ว่ามีอีกหลายกลุ่ม โดยรายใหญ่ที่สุด คือเครือข่ายของนายวิชัย ปั้นงาม ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีซึ่งยังหลบหนีการจับกุม.-สำนักข่าวไทย