กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – ผู้ว่าการกฟผ. ยืนยันว่า โรงไฟฟ้าถ่านหิน ทั้งที่กระบี่-นครศรีธรรมราช ยังเดินหน้าตามแผน ยอมรับไฟฟ้าสำรองที่สูง อาจทำให้ต้องชะลอการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางโรง
นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า โรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่จังหวัดกระบี่ และโรงไฟฟ้าเทพา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ ขณะที่ปริมาณไฟฟ้าสำรองมีสูงถึงร้อยละ 27 ซึ่งมากกว่ากำลังสำรองตามมาตรฐานที่ร้อยละ 15 ซึ่ง อาจจะส่งผลให้กระทรวงพลังงานชะลอการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางโรงออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีปริมาณสำรองไฟฟ้าเกินร้อยละ 15 แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ เนื่องจากเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าใหม่ จะช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า และ มลพิษเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลง
สำหรับการก่อสร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ แอลเอ็นจี ในอ่าวไทย ทาง กฟผ. ได้เสนอแผนงานต่อกระทรวงพลังงาน เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมกาบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ในวันนี้ ซึ่งต้องรอมติที่ประชุม กบง. ว่าจะอนุมัติให้ทาง ปตท. หรือ กฟผ. เป็นผู้ดำเนินการนำเข้า ก๊าซ แอลเอ็นจี เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน
นอกจากนี้ ผู้ว่าการ กฟผ. ยังได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยทาง กฟผ. ได้น้อมสืบสานปณิธานงานของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพล อดุลยเดช ร่วมสานต่อ 9 พระราชปณิธาน ทั้งการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน การประดิษฐ์และนวัตกรรม การดูแลรักษาป่าและน้ำ ด้านความพอเพียงและการเอาชนะความยากจน การดูแลชาวนา การศึกษา การประหยัด การเสียสละและการให้ทาน และสุดท้ายการส่งเสริมให้เป็นคนดี เพื่อเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพ ด้านวิศวกรรม การพัฒนาแหล่งน้ำ เขื่อน และ พลังงาน ที่สามารถช่วยยกระดับคุณภาพของประชาชนให้ดีขึ้นพร้อมกับสร้างความเจริญให้ประเทศอย่างยั่งยืน – สำนักข่าวไทย