กรมการขนส่งทางบก 9 มี.ค.-กรมการขนส่งทางบกระบุการใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถแท็กซี่ไม่ผิดกฎหมาย ยกเว้นเป็นการใช้เพื่อเรียกรถยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) มารับส่งผู้โดยสาร โดยภาครัฐพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงรูปแบบการให้บริการและเร่งปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของรถแท็กซี่ในระบบให้ดีขึ้น
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้ภาครัฐสนับสนุนรถโดยสารทางเลือกใหม่ เช่น Uber, Grab car โดยระบุว่าเป็นบริการที่เพิ่มความสะดวกในการเดินทางมากกว่าการให้บริการรถโดยสารที่มีอยู่ในปัจจุบันว่า กรมการขนส่งทางบกได้ชี้แจงไปยังผู้ประกอบการโดยตรงและผ่านทางสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดว่า แอพพลิเคชั่นในการเรียกใช้บริการแท็กซี่สามารถกระทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ประเด็นที่ผิดกฎหมายคือ การนำแอพพลิเคชั่นไปใช้เรียกรถยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) เพื่อใช้รับจ้างขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ฐานใช้รถยนต์ผิดประเภทจากที่จดทะเบียนไว้ ไม่ใช้มาตรค่าโดยสารตามที่ทางราชการกำหนด ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ไม่เคยผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และไม่เข้าสู่ระบบทะเบียนของศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ประชาชนจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย และกรณีเกิดเหตุไม่พึงประสงค์เป็นอันตรายต่อความปลอดภัย ภาครัฐจะไม่สามารถติดตามรถหรือคนขับรถมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้
“กรมการขนส่งทางบกให้ความสำคัญกับการกำกับ ดูแล การให้บริการขนส่งสาธารณะทางถนนให้ปลอดภัยต่อประชาชนสูงสุด จึงได้แก้ไขปัญหามาโดยตลอด ทั้งการชี้แจงทำความเข้าใจ การประชาสัมพันธ์แนะนำการใช้บริการรถโดยสารที่ถูกกฎหมายแก่ประชาชน กวดขันจับกุมผู้ให้บริการผิดกฎหมายทั้งรถนอกระบบและรถแท็กซี่ในระบบที่กระทำความผิดทุกกรณี เช่น เข้มงวดและลงโทษขั้นสูงสุดกับพนักงานขับรถที่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร หรือไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือทำเพื่อปกป้องประโยชน์ของกลุ่มใด โดยดำเนินการควบคู่กับการปรับปรุงคุณภาพ การให้บริการของรถแท็กซี่ในระบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและจูงใจให้ประชาชนหันกลับมาใช้บริการมากขึ้น”นายสนิท กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นที่ยังไม่ถูกกฎหมาย เช่น Uber และ Grab Car กรมการขนส่งทางบกพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ทันสมัยภายใต้กรอบของกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกและประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งในปัจจุบันมีรถแท็กซี่ในระบบเริ่มใช้แอพพลิเคชั่นเป็นสื่อกลาง ในการบริการ เช่น Grab Taxi, All Thai Taxi ซึ่งกรมการขนส่งทางบกพร้อมให้การสนับสนุนในทุกมิติ ในทางคู่ขนานกรมการขนส่งทางบกได้พัฒนายกระดับมาตรฐาน รถแท็กซี่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจ ความปลอดภัย โดยดำเนินโครงการ TAXI OK / TAXI VIP โดย โครงการ TAXI-OK เป็นการยกระดับการให้บริการแท็กซี่ในปัจจุบัน โดยการติดตั้ง GPS Tracking พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ, กล้อง CCTV, มีปุ่มฉุกเฉิน (ส่งข้อมูล Online มาที่ศูนย์ GPS ทันที), มีระบบแจ้งเตือนการใช้ความเร็ว รวมถึงจัดทำระบบเรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อตอบโจทย์การเข้าถึงการให้บริการ
นอกจากนี้ยังมีโครงการ TAXI VIP หรือรถแท็กซี่ชนิดพิเศษ เป็นการเพิ่มทางเลือกในการให้บริการของประชาชน โดยใช้รถที่มีมาตรฐานขนาดตัวรถและสมรรถนะที่สูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป เพิ่มอุปกรณ์ส่วนควบสำหรับให้บริการที่มีความสะดวกมากขึ้น เพิ่มเติมจากข้อกำหนดการติดตั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ส่วนควบตามโครงการ TAXI OK อีกทั้งผู้ประกอบการต้องเป็นนิติบุคคล มีความพร้อมทางธุรกิจ มีแผนการประกอบการแบบมืออาชีพ ซึ่งร่างกฎกระทรวงทั้งสองฉบับได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 ปัจจุบัน อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ก่อนส่งกระทรวงคมนาคมลงนามประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งจะเป็นมาตรการในการยกระดับมาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้น-สำนักข่าวไทย