ป้อมมหากาฬ หารือ 3 ฝ่าย หลัง กทม.เข้ารื้อครั้งที่3

เขตพระนคร 9 มี.ค.- กทม.ขีดเส้นภาคีเครือข่ายอนุรักษ์   สรุปจำนวนบ้านโบราณป้อมมหากาฬภายใน  2 สัปดาห์  ด้านผู้นำชุมชมร้องขอที่ดิน 1 ไร่ เพื่อให้ชาวป้อมมหากาฬบางส่วนมีที่พักอาศัย


 

บรรยากาศภายในชุมชนป้อมมหากาฬ  นำโดย พ.ท.โชคดี อัมพรดิษฐ์ ผู้บังคับการกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ , นายยุทธพันธุ์ มีชัย เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายธวัชชัย มหาวรคุณ ผู้นำชุมชนป้อมมหากาฬทั้ง 3ฝ่ายร่วมกันหารือ สรุปข้อเรียกร้องหลังจาก กทม.เข้ามารื้อถอนบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างภายในชุมชนป้อมมหากาฬ เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนักวิชาการ ภาคประชาสังคมบางส่วนเข้าร่วมสังเกตการณ์


 

การหารือทั้ง 3 ฝ่ายครั้งนี้ นายธวัชชัย เรียกร้องให้วันพรุ่งนี้ (10 มี.ค) กทม.เร่งดำเนินการกับนางศรีสวาท เล็กวิไล เจ้าบ้านเลขที่ 95 ที่รื้อถอนไปเมื่อวันที่ 6มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังกลับมาพักอาศัยอยู่ภายในบ้านเลขที่ 127 ซึ่งไม่ใช่ของตน และเจ้าของบ้านเลขที่127 ได้โอนกรรมสิทธิให้กับ กทม.แล้ว ดังนั้นนางศรีสวาทไม่มีสิทธิเข้ามาพักอาศัย  โดยนายยุทธพันธุ์ รับข้อเรียกร้อง เบื้องต้นจะดำเนินการตัดน้ำ ตัดไฟ บ้านเลขที่127

 


ขณะเดียวกันนายธวัชชัย ยังร้องขอที่ดินจำนวน 1 ไร่ ให้กับชาวชุมชนป้อมมหากาฬ โดยยืนยันจะทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายย่านเมืองเก่า พัฒนาพื้นที่ป้อมมหากาฬให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตต่อไปในอนาคต

 

สำหรับข้อเรียกร้องดังกล่าว นายยุทธพันธุ์  กล่าวว่า  ขอให้ภาคีเครือข่ายอนุรักษ์ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ พิจารณาจำแนกบ้านโบราณ 24หลัง สรุปความชัดเจนจำนวนบ้านโบราณที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างแท้จริง คาดไม่เกิน 2สัปดาห์ เพื่อให้คณะทำงานวางแนวทางดำเนินการรื้อถอนบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เกี่ยวข้อง  เดินหน้าบริหารจัดการพื้นที่ พัฒนาเป็นสวนสาธารณะ อนุรักษ์โบราณสถานต่อไป  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย